รีวิว Infinix Smart 2 HD สมาร์ทโฟนจอใหญ่ยอดประหยัด กับสเปกสดใหม่ลื่นไหลบน Android 8.1 Go Edition ในราคาแค่ 2,690 บาท!:: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทโฟนจอใหญ่ยอดประหยัด กับสเปกสดใหม่ ในราคาแค่ 2,690 บาท! ด้วยจอ FullView HD+ ใหญ่ 6 นิ้ว, ระบบสแกนใบหน้า, กล้อง 8 ล้านพิกเซลทั้งหน้า-หลัง และแบตเตอรี่ 3500 mAh สุดอึด บนความสดใหม่ลื่นไหลของ Android 8.1 Go Edition พร้อมประกันจอแตก และแบตเตอรี่ฟรี 1 ปี!

2 พฤศจิกายน 2018 - เดือนตุลาคมที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเป็นอีกเดือนหนึ่งที่วงการสมาร์ทโฟนคึกคักเป็นอย่างมาก เพราะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับไฮเอนด์เปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่องแทบจะวันเว้นวัน ทำให้ช่วงนี้มีรีวิวมาให้ทุกท่านได้ติดตามกันเยอะเลยทีเดียว และสำหรับในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilcenter ก็มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันอีกแล้ว ซึ่งก็คือ Infinix Smart 2 HD ครับ

หากพูดถึงแบรนด์ Infinix หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราไม่นานนัก แต่สมาร์ทโฟนของค่ายนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยครับ เช่น Infinix Note 5 Stylus สมาร์ทโฟน Android One พร้อมปากกาที่เราเคยรีวิวให้ชมกันไปแล้ว สำหรับ Infinix Smart 2 HD ที่ทางทีมงานนำมารีวิวกันในครั้งนี้ เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Go Edition ที่ถูกครอบทับด้วย XOS 3.3.0 ซึ่งเป็น Custom UI ของ Infinix

โดยตัวเครื่องมีจุดเด่นอยู่ที่ หน้าจอแสดงผลใหญ่6 นิ้ว ความละเอียด HD+ และแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 3500 mAh ทำให้ตอบโจทย์ด้านการชมภาพยนตร์และดู YouTube ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยัง รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และติดตั้งหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้ แถมยัง รองรับระบบสแกนใบหน้า อีกด้วย จึงจัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นราคาประหยัด ในงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาทที่มีความสามารถมากกว่าที่คิดครับ (Infinix Smart 2 HD มีราคาอยู่ที่ 2,690 บาท )

นอกจากจุดเด่นที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Infinix Smart 2 HD ยังมีฟีเจอร์น่าสนใจอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชม รีวิว Infinix Smart 2 HD โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Infinix Smart 2 HD มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ FullView ขนาด 6.0 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1440x720 พิกเซล) ในอัตราส่วนแบบ 18:9 ซึ่งขนาด และน้ำหนักของตัวเครื่องจัดว่ากำลังเหมาะมือ

ฝาเครื่องด้านหลังเป็นวัสดุประเภทโพลีคาร์บอเนต พิมพ์โลโก้ Infinix ไว้บริเวณกึ่งกลาง และชื่อรุ่น Smart ไว้ด้านล่าง บริเวณมุมซ้ายบนเป็นตำแหน่งของกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนช่องเล็กๆ มุมขวาล่างเป็นลำโพงเสียงภายนอก

Infinix Smart 2 HD มีหน้าจอแสดงผลแบบคลาสสิค ซึ่งมีขอบเครื่องทั้ง 4 ด้านชัดเจน ด้านบนเป็นที่อยู่ของลำโพงสนทนา, กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED สำหรับการถ่ายเซลฟีภายใต้สภาวะแสงน้อย

ขอบเครื่องด้านล่างไม่มีปุ่มโฮม หรือปุ่ม Hard Key ใดๆ โดยปุ่มควบคุมหลักทั้ง 3 ปุ่มนั้นเป็นแบบ On-Screen ทั้งหมด

ขอบเครื่องด้านบนมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ขอบเครื่องด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล ส่วนรูเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ นั้นเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

ขอบเครื่องด้านขวาเป็นที่อยู่ของ ปุ่ม Power (ปุ่มสั้น) และ ปุ่มปรับระดับเสียง (ปุ่มยาว) โดย ปุ่ม Power จะมีพื้นผิวแบบขรุขระ ซึ่งช่วยกันลื่นได้ดี และช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วเลื่อนหาปุ่ม Power ได้ง่ายขึ้นมาก โดยไม่สับสนกับปุ่มปรับระดับเสียงที่มีพื้นผิวแบบเรียบ

ส่วนขอบเครื่องด้านซ้ายไม่มีปุ่ม หรือโมดูลใดๆ

Infinix Smart 2 HD สามารถ ถอดฝาหลังออกได้ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ช่วย อย่างไรก็ตาม ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in ไม่สามารถถอดออกได้

หลังจากแกะฝาหลังออกแล้ว ด้านบนเหนือแบตเตอรี่จะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nano-SIM 2 ช่อง และช่องสำหรับเสียบการ์ดความจำ Micro-SD

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Infinix Smart 2 HD รหัสโมเดล Infinix X609B เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Go Edition ซึ่งกินทรัพยากรน้อยกว่าระบบปฏิบัติการ Android แบบมาตรฐาน ทำให้สามารถรันแอปพลิเคชันต่างๆ ได้รวดเร็วแม้จะมีสเปกไม่สูงมาก โดยมีการครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ XOS เวอร์ชัน 3.3.0 ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซที่ทาง Infinix พัฒนาขึ้นเอง

ในส่วนของสเปกหลักๆ นั้น Infinix Smart 2 HD ใช้ชิปเซ็ต MediaTek MT6580WP แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.3GHz ที่มากับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-400 MP GPU พร้อมด้วยหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16GB

เมื่อเข้าสู่หน้า Home Screen จะพบกับหน้าจออินเทอร์เฟซที่ดูสะอาดตา ด้านล่างมี Dock สำหรับวางแอปพลิเคชันที่ใช้บ่อยๆ เช่นการโทร, ข้อความ, เบราว์เซอร์ Chrome และกล้องถ่ายภาพ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบด้วยการลากแอปพลิเคชันออกจาก Dock หรือลากเข้ามาวางใน Dock เพื่อให้เข้าถึงแอปพลิเคชันโปรดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ อินเทอร์เฟซ XOS 3.3.0 ไม่มี App Drawer แอปพลิเคชันทั้งหมดที่ถูกติดตั้งลงบนเครื่องจะแสดงอยู่ในหน้าถัดไปของ Home Screen ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยการปัดหน้าจอไปทางซ้าย

เมื่อปัดขอบจอด้านบนลงมา 1 ครั้ง จะเป็นการเปิดแผงทางลัดการตั้งค่าแบบย่อ และแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ เมื่อปัดลงมาอีกครั้งจะเป็นการเปิดแผงทางลัดการตั้งค่าแบบเต็ม ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับการตั้งค่าฟังก์ชันที่ใช้บ่อยๆ ได้อย่างสะดวก เช่นปรับระดับความสว่างของหน้าจอ, เปิด-ปิด Wi-Fi, เปิด-ปิด Bluetooth, เปิดโหมดห้ามรบกวน และอื่นๆ โดยผู้ใช้สามารถเพิ่ม หรือลบทางลัดการตั้งค่าได้เองอย่างอิสระ

Infinix Smart 2 HD ได้รับการติดตั้งเครื่องมือและแอปพลิเคชันพื้นฐานมาให้แล้วหลายรายการ เช่นแอปพลิเคชันบึนทึกเสียง, วิทยุ FM, เครื่องคิดเลข เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ แอปพลิเคชันของ Google ครบชุด ไม่ว่าจะเป็น Files Go สำหรับจัดการไฟล์ในตัวเครื่อง, Gmail , Google Maps , YouTube และอื่นๆ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็น Go Edition ที่ได้รับการปรับแต่งให้กินทรัพยากรน้อยลงกว่าเวอร์ชันปกติ เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น และลดอาการค้าง หน่วง เด้ง ซึ่งทำงานเข้าคู่กับระบบปฏิบัติการ Android Go ได้เป็นอย่างดี

สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทร มีอินเทอร์เฟซที่สะอาด และมีปุ่มตัวเลขใหญ่ กดง่าย สามารถเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อใหม่, แก้ไขรายชื่อที่มีอยู่แล้ว และส่ง SMS ได้ผ่านเมนูทางลัดด้านบน

หากต้องการเปลี่ยนหน้าตาของ Home Screen ผู้ใช้สามารถ กดค้างลงบนพื้นที่ว่างของหน้า Home Screen เพื่อเข้าสู่โหมดปรับแต่งได้

ในโหมดนี้ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังหน้าจอ โดยเลือกจากภาพที่มีอยู่ในเครื่อง หรือดาวน์โหลดจากสโตร์ XTheme ของ Infinix ได้ และยังสามารถเพิ่ม หรือลบวิดเจ็ตต่างๆ ได้ตามต้องการ

นอกจากภาพพื้นหลังแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งการแสดงผลอื่นๆ ได้อีก เช่น ขนาดไอคอน, จำนวนของแอปที่แสดงในแต่ละหน้า, เปลี่ยนสีข้อความ และอื่นๆ

Infinix Smart 2 HD มีแอปพลิเคชัน "ตัวควบคุมโทรศัพท์" ติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้เคลียร์หน่วยความจำ RAM, ลบไฟล์ขยะ, ลดความร้อนของตัวเครื่อง, จัดการปริมาณการใช้งาน Data, เปิดโหมดประหยัดพลังงาน และบล็อคเบอร์โทรได้อย่างง่ายๆ

ที่น่าสนใจคือ แม้ว่า Infinix Smart 2 HD จะไม่ใช่สมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกม แต่ก็ มีฟังก์ชันการเพิ่มประสิทธิภาพเกม มาให้ด้วย

ซึ่งฟีเจอร์นี้นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมแล้ว ยัง ปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้เด้งขึ้นมารบกวนระหว่างเล่นเกม ได้อีกด้วย นับเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีประโยชน์มากๆ

สำหรับการจัดการไฟล์ต่างๆ ในตัวเครื่อง สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน Files Go โดยกดที่แท็บ "เรียกดู" เพื่อดูไฟล์ที่อยู่ในเครื่อง โดยมีการแบ่งหมวดหมู่เอาไว้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย, วิดีโอ, ภาพ Screenshot, แอปพลิเคชัน และไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา เป็นต้น นอกจากนี้ Files Go ยังมี ฟังก์ชันการทำความสะอาดไฟล์ขยะ และลบแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน ได้อีกด้วย

ในส่วนของการใช้งานด้านความบันเทิง Infinix Smart 2 HD มี Google Play Music เป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานสำหรับเล่นเพลง ซึ่งใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก หรือถ้ายังไม่ถูกใจ หรือต้องการแอปพลิเคชันที่มีตัวเลือกในการปรับแต่งมากกว่านี้ ก็สามารถหาโหลดจาก Play Store ได้

สำหรับภาพถ่าย และไฟล์รูปภาพตระกูลอื่นๆ ภายในเครื่อง สามารถเข้าไปดู และแก้ไขได้ในแอปพลิเคชัน Google Photos ที่น่าสนใจคือ แอปพลิเคชันนี้ สามารถ Back Up ภาพถ่ายของเราด้วยการอัปโหลดขึ้นไปบนระบบ Cloud ได้โดยอัตโนมัต ิ แม้สมาร์ทโฟนของเราจะพัง หรือภาพถ่ายถูกลบออกจากเครื่อง เราก็ยังเข้าถึงภาพถ่ายทุกภาพของเราได้ ด้วยการใช้บัญชี Google Account ซึ่งทุกคนต้องมีอยู่แล้วเพราะจำเป็นต้องใช้ในการเข้าถึง Play Store ครับ

ส่วนไฟล์วิดีโอทั้งหลาย ก็สามารถเปิดได้ด้วย Google Photos เช่นกัน ซึ่งมีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่เข้าใจไม่ยาก ทั้งนี้วิดีโอจะเล่นแบบ Full Screen เสมอ แต่หากตัววิดีโอไม่ได้มีสัดส่วนการแสดงผลแบบ 18:9 จะไม่สามารถขยายให้เต็มพื้นที่จอได ้ โดยจะเหลือพื้นที่สีดำข้างๆ เอาไว้ตามที่เห็นในภาพ

Google Photos มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ "ปรับไม่ให้สั่น" ซึ่งช่วยแก้ไขวิดีโอให้มีความนิ่งยิ่งขึ้น ราวกับนำระบบกันสั่น OIS หรือ EIS ไปใส่ให้กับวิดีโอหลังจากที่ถ่ายไปแล้ว พร้อมกันนี้ยังมีฟีเจอร์ "หมุน" ที่ช่วยให้เราหมุนการแสดงผลของวิดีโอได้ ซึ่งจะมีประโยชน์เมื่อเรามีวิดีโอที่ถ่ายแบบตะแคงข้าง หรือกลับหัวมาตั้งแต่แรก เราก็ใช้ฟีเจอร์นี้หมุนให้กลับมาอยู่ในองศาที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย

ในส่วนของการท่องเว็บไซต์ Infinix Smart 2 HD มีเบราว์เซอร์มาให้ 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่ PHX และ Google Chrome ซึ่งไม่ว่าจะใช้งานตัวไหน ก็สามารถรับชมเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งคู่ครับ

นอกจากแอปพลิเคชัน และฟีเจอร์ทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Infinix Smart 2 HD ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์จิปาถะอื่นๆ เช่น "ตู้แช่แข็ง" ซึ่งแอปพลิเคชันที่อยู่ในโฟลเดอร์นี้ จะไม่มีการทำงานอยู่เบื้องหลัง หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่ออัปเดตใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้ เหมาะสำหรับเก็บแอปพลิเคชันที่ใช้ไม่บ่อย แต่เราไม่อยากลบครับ

ต่อมาเป็นแอปพลิเคชัน X Club ซึ่งเป็นเสมือนคอมมูนิตี้ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน Infinix ทั่วโลก โดยมีกระดานสมทนาสำหรับตั้งกระทู้ถาม-ตอบ, มีห้องสำหรับอวดภาพถ่ายสวยๆ และมีเทคนิคการใช้งานสมาร์ทโฟนให้อ่าน เป็นช่องทางที่ผู้ใช้สามารถติดต่อถึงกันได้ง่าย หากมีปัญหาการใช้งานสมาร์ทโฟน เราก็อาจจะเข้าไปค้นหาคำแนะนำ และวิธีแก้ไขจากผู้ใช้คนอื่นๆ ในคอมมูนิตี้นี้ได้ครับ

อีกแอปพลิเคชันหนึ่งที่ติดมากับตัวเครื่องคือ fooView ซึ่งมีฟังก์ชันการทำงานคล้ายกับปุ่ม Assistive Touch บน iPhone โดยจะเป็นปุ่มลอยที่เราสามารถกดค้างเพื่อ เข้าสู่แอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการจับภาพหน้าจอ, การบันทึกวิดีโอหน้าจอ, การตั้งค่า และฟังก์ชันจิปาถะอื่นๆ ด้วย

ในการจับภาพหน้าจอนั้น เราสามารถเลือกจับภาพ แค่บางส่วน หรือจับทั้งหน้าจอก็ได้ นอกจากนี้ยังจับภาพเป็นรูปทรงต่างๆ เช่นรูปหัวใจ วงกลม หรือรูปดาวได้อีกด้วย

มาดูความสามารถในการเล่นเกมกันบ้างครับ ซึ่งจากการทดสอบโดยทีมงาน พบว่า Infinix Smart 2 HD ยังพอที่จะเล่นเกมได้บ้าง แม้ว่าจะมีสเปกไม่สูง โดยสามารถ รันเกมฮิตอย่าง RoV ได้ที่เฟรมเรตประมาณ 20-25 ส่วนเกมอื่นๆ ที่กินทรัพยากรไม่มากเช่น Contra: Return ก็เล่นได้ลื่นพอสมควร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวเครื่องมีความจุภายในเพียงแค่ 16GB เมื่อรวมกับภาพถ่าย และแอปพลิเคชันอื่นๆ แล้ว อาจไม่มีพื้นที่เหลือพอให้ติดตั้งเกม หากต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมที่ราคาไม่แพงสมาร์ทโฟนระดับกลางจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ

ปิดท้ายกันด้วยการทดสอบ Benchmark ของ Infinix Smart 2 HD ซึ่งจากการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu BenchMark สามารถทำคะแนนได้ 19395 คะแนน และจากการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 4 สามารถทำคะแนนได้ 756 คะแนน

การใช้งานกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ

Infinix Smart 2 HD นั้น มากับ กล้องดิจิทัลด้านหน้า และด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่ากัน รองรับภาพถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด 3264x2448 พิกเซลในอัตราส่วน 4:3 และที่ความละเอียดต่ำสุด 2304x1296 พิกเซล ในอัตราส่วน 16:9 ส่วนการบันทึกวิดีโอรองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p

แอปพลิเคชันถ่ายภาพพื้นฐานของ Infinix Smart 2 HD มีโหมดการถ่ายภาพให้ใช้งานไม่มากนัก โดยมี โหมดปกติ (อัตโนมัติ), โหมดบิวตี้, โหมดพาโนรามา และ โหมดกลางคืน สามารถใส่ลายน้ำ, แสดงจุดตัด 9 ช่อง, แสดงเส้นวัดความเอียง และปิดเสียงชัตเตอร์ได้ โดย โหมดบิวตี้สามารถปรับได้ 6 ระดับ และปรับอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งสามารถดูตัวอย่างภาพถ่ายของแต่ละระดับได้ในหัวข้อถัดไปครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพถ่ายเวลากลางแจ้ง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเวลากลางแจ้ง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเวลากลางแจ้ง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเวลากลางแจ้ง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเวลากลางแจ้ง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเวลากลางแจ้ง โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี โหมดปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี เปิดโหมดบิวตี้ระดับ 1 (ต่ำสุด)

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี เปิดโหมดบิวตี้ระดับ 6 (สูงสุด)

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี เปิดโหมดบิวตี้แบบ AI

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟีในที่มืด โดยใช้แฟลช และเปิดโหมดบิวตี้แบบ AI

สรุปผลการทดสอบของ Infinix Smart 2 HD

Infinix Smart 2 HD เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือการใช้งานที่ไม่ได้หนักหน่วงมาก โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ หน้าจอ LCD ขนาด 6 นิ้วในอัตราส่วน 18:9 ที่มีความคมชัดระดับ HD+ ทำให้เหมาะกับการดูหนังซีรีส์ หรือดู YouTube และยังใช้งานได้ยาวนานตลอดวันด้วย แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh ซึ่งจัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียวเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีราคาใกล้เคียงกัน

ด้วยความที่ Infinix Smart 2 HD เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เน้นการใช้งานทั่วๆ ไปเป็นหลัก และมีราคาย่อมเยา จึงเลือกใช้ชิปเซ็ตทีมีหน่วยประมวลผล 4 แกนอย่าง MediaTek MT6580WP ความเร็ว 1.3GHz ที่มากับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-400 MP พร้อมด้วยหน่วยความจำ (RAM) ขนาด 1GB และความจุภายใน 16GB ซึ่งจัดว่าเป็นสเปกในระดับเริ่มต้นจริงๆ และอาจมีการทำงานที่ไม่ลื่นไหลในบางจังหวะ อย่างไรก็ตาม InfinixSmart2 HD ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Go Edition ซึ่งเป็นระบบ Android เวอร์ชันที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟน Entry-Level โดยเฉพาะ จึงกินทรัพยากรน้อยกว่า และทำงานได้เร็วกว่า Android เวอร์ชันมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันตระกูล Go ของ Google ไม่ว่าจะเป็น Files Go, YouTube Go หรือ Maps Go ซึ่งกินทรัพยากรน้อยกว่า และทำงานเข้าคู่กับระบบปฏิบัติการ Android Go ได้เป็นอย่างดี จึงมีความลื่นไหลในการใช้งานทั่วๆ ไป อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีครับ

สำหรับการถ่ายภาพ Infinix Smart 2 HD มีฟังก์ชันการถ่ายภาพที่เรียบง่าย โดยมีโหมดให้เลือกใช้ไม่มากนัก แต่ยังมีโหมดสำคัญๆ อย่า งโหมดบิวตี้ที่ปรับได้ถึง 6 ระดับ หรือจะเลือกปรับด้วย AI ก็ได้ ซึ่งจากการทดลองถ่าย ถือว่าทำได้ดีทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึง 3,000 บาท แต่การวัดแสงยังไม่ค่อยคงที่ บางจังหวะอาจจะมืด หรือสว่างกว่าปกติ จึงอาจต้องรอสักครู่ให้ตัวกล้องวัดแสงให้นิ่งก่อน ถึงจะได้ภาพถ่ายที่ดีที่สุดครับ

โดยรวมแล้ว Infinix Smart 2 HD เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นราคาประหยัดที่มีหน้าจอใหญ่ ความละเอียดสูง เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์ และดู YouTube รวมไปถึงการใช้งานทั่วๆ ไป หรือใช้เป็นเครื่องสำรองครับ

สำหรับผู้ที่สนใจ Infinix Smart 2 HD จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2018 เป็นต้นไป ในราคา 2,690 บาท สามารถหาสั่งซื้ออนไลน์ได้ที่ Lazada, JD Central และ Shopee พร้อม รับประกันเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ฟรี ในระยะเวลา 1 ปี และรับประกันจอแตก เปลี่ยนฟรี 1 ครั้ง สงวนสิทธิ์เครื่องละ 1 ครั้งภายใน 1 ปี ไม่รวมความเสียหายที่เกิดกับชิ้นส่วนอื่นๆ หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobiliom และ acebookom/InfinixMobileThailand ครับ

จุดเด่นของ Infinix Smart 2 HD

- จอแสดงผล FullView ขนาดใหญ่ 6 นิ้ว ในอัตราส่วนแบบ 18:9 ความละเอียดระดับ HD+ สามารถรับชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอารมณ์ และใช้งานทั่วไปได้ดี - ฝาหลังตัวเครื่องเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนตจับได้กระชับมือ เป็นรอยนิ้วมือยาก และถอดออกได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ - มีระบบสแกนใบหน้าให้ใช้งาน (Face Unlock) - ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต MediaTek MT6580WP ความเร็ว 1.3GHz - มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Go Edition พร้อมด้วยแอปพลิเคชันตระกูล Go ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นโดยเฉพาะ ทำให้กินทรัพยากรน้อย และทำงานได้รวดเร็วกว่า Android เวอร์ชันมาตรฐาน - กล้องดิจิทัลทั้งด้านหน้า และด้านหลัง มีความละเอียดเท่ากันที่ 8 ล้านพิกเซล และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดถึงระดับ Full HD 1080p - รองรับการใช้งาน Google Lens - แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh จัดว่าสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาใกล้เคียงกัน - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB - รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งสามารถติดตั้งการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD (สูงสุด 128 GB) ได้ในเวลาเดียวกัน - มีวิทยุ FM ในตัว - ราคาเปิดตัว 2,690 บาท ซึ่งเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก และคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปก, ฟีเจอร์ต่างๆ และการรับประกันที่ให้มา - รับประกันจอแตก และแบตเตอรี่ ฟรี 1 ปี - มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน และสีทอง

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Infinix Smart 2 HD

Leave a Comment