รีวิว realme 5 สมาร์ทโฟน 4 กล้อง AI พร้อมจอหยดน้ำอย่างใหญ่ และแบตไซส์ยักษ์ ในราคาไม่ถึง 5 พันบาท :: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทโฟน 4 กล้อง AI พร้อมจอหยดน้ำอย่างใหญ่ และแบตไซส์ยักษ์ ในราคาไม่ถึง 5 พันบาท! ด้วยกล้อง AI Quad Camera ที่เก็บครบทุกองศาภาพ, จอ Mini-drop Fullscreen ใหญ่ 6.5 นิ้ว, แบตเตอรี่จุใจ 5000 mAh, ชิปเซ็ต Snapdragon 665 AIE และสเปกครบเครื่อง บนบอดี้ Crystal Nano Holographic ที่สวยเปล่งประกายดั่งเพชร ในราคาสุดคุ้ม เริ่มเพียง 4,599 บาท

14 กันยายน 2019 - ในเดือนนี้ realme เริ่มรุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางหนักด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มากับ กล้องหลัง 4 ตัวออกมา 2 รุ่น ได้แก่ realme 5 และ realme 5 Pro ในราคาเพียงแค่หลักพันเท่านั้น ช่วยให้ผู้ใช้ทั้งเก่า และใหม่เข้าถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพชั้นดีได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงมีคุณสมบัติที่พร้อมรองรับทุกการใช้งานได้อย่างเต็มที่ และเมื่อสัปดาห์ก่อนทางทีมงาน Thaimobilecenter ก็ได้ รีวิว realme 5 Pro ให้ได้ชมกันไปแล้ว สำหรับในวันนี้เราจะมารีวิวน้องเล็กของรุ่นอย่าง realme 5 ให้ชมกันบ้างครับ

ถึงแม้ realme 5 จะเป็นรุ่นเล็กที่ลดสเปกลงมาจากรุ่นใหญ่อย่าง realme 5 Pro แต่ก็มีความสามารถที่ไม่เบาทีเดียวเมื่อเทียบกับราคา โดยมีจุดเด่นหลักๆ อยู่ที่ หน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ (Mini-Drop Fullscreen) ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.5 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่า realme 5 Pro และ แบตเตอรี่ 5,000 mAh ให้ใช้งานกันแบบจุใจ ส่วนคุณสมบัติพื้นฐานนั้น realme 5 ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 AIE ความเร็ว 2.0GHz พร้อมด้วยหน่วยความจำแรม (RAM) สูงสุดขนาด 4GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) สูงสุดขนาด 128GB จึงรองรับการใช้งานได้รอบด้านไม่ว่าจะทำงาน หรือเล่นเกม นอกจากนี้ยังมากับ ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot ที่สามารถใส่การ์ด microSD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำได้อีกสูงสุด 256GB พร้อมกับใช้งาน 2 ซิมการ์ดได้ ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอีกต่อไป

สำหรับไฮไลท์ของ realme 5 ซึ่งเป็นกล้อง 4 ตัวนั้น สามารถรองรับการถ่ายภาพได้ทุกมุมมองทุกองศาโดยที่กล้องแต่ละตัวจะมีเลนส์ที่ทำหน้าที่เฉพาะ ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล , กล้อง Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , กล้อง Portrait (Depth Sensor) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และ กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ผู้ใช้จึงสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์แนว Landscape, ภาพ Portrait ละลายหลัง หรือภาพโคลสอัพเน้นรายละเอียดแบบ Macro ขณะเดียวกันตัวกล้องยังมากับลูกเล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับหน้าสวย AI Beautification ได้ถึง 100 ระดับ และปรับได้ละเอียดตั้งแต่สีผิวจนถึงโครงหน้า, ฟีเจอร์สีตื่นตา ที่ช่วยเร่งสีสันของภาพให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น และ Nightscape ที่ช่วยให้ถ่ายภาพบรรยากาศยามค่ำคืนได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช เป็นต้น ซึ่งความสามารถทั้งหมดนี้ถูกใส่ไว้ในตัวเครื่องสวยๆ แบบ New Crystal Design ที่สวยเปล่งประกายดั่งเพชร

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเด่นในเบื้องต้นเท่านั้น ในการใช้งานจริง realme 5 จะมีความสามารถอะไรอีกบ้าง เราไปดูกันใน รีวิว realme 5 โดย Thaimobilecenter กันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

realme 5 มีดีไซน์โดยรวมคล้ายกับรุ่น realme 5 Pro โดยตัวเครื่องด้านหน้าจะเป็นหน้าจอ IPS LCD กว้าง 6.5 นิ้ว พร้อม รอยบากทรงหยดน้ำ (Mini-drop Fullscreen) ครอบคลุมพื้นที่ด้านหน้า 89% (Screen-to-Body Ratio)  ความละเอียด 720x1600 พิกเซล (HD+) ในอัตราส่วนแบบ 20:9 โดยมีขอบจอด้านล่างหนากว่าด้านอื่น

ที่รอยบากทรงหยดน้ำด้านบนหน้าจอ มีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เหนือขึ้นไปมีช่องลำโพงสนทนาเล็กๆ อยู่

ตัวเครื่องด้านหลังมีดีไซน์ที่โดดเด่นสวยงาม โดยเป็นดีไซน์ผลึกคริสตัลสะท้อนแสงไล่เฉดสีแบบ Nano Holographic Color พร้อมทั้งเคลือบพื้นผิวแบบเงา ซึ่งตัวเครื่อง realme 5 ที่เรานำมารีวิวกันในครั้งนี้ เป็น สี น้ำเงิน Crystal Blue

ด้านหลังตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และ กล้อง 4 ตัว (Quad Camera) จัดเรียงกันในแนวนอน ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, กล้องเลนส์ Ultra Wide-Angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25, กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และกล้อง Portrait (Depth Sensor) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ขอบเครื่องโดยรอบมีความโค้งมนรับกับอุ้งมือ โดยด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับ เสียง 2 ปุ่ม และช่องใส่ซิมการ์ด ส่วนด้านขวามีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเพียงปุ่มเดียว

ขอบเครื่องด้านบนไม่มีโมดูลใดๆ ส่วนด้านล่างมีช่องลำโพงเสียงภายนอก, พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB, ไมโครโฟน และช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ถาดใส่ซิมของ realme 5 เป็นแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ได้ 2 ซิม พร้อมกับใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้ที่ความจุสูงสุด 256GB

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่อง ประกอบด้วยเข็มถอดซิมการ์ด, เคสซิลิโคนแบบใส, อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ และสาย microUSB ไม่มีหูฟังมาให้ในกล่อง (หูฟังในภาพสำหรับประกอบฉากเท่านั้น)

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

realme 5 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6 ซึ่งเป็นอินเตอร์เฟซเวอร์ชันล่าสุด

เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเป็นการเปิด แถบเมนูทางลัด ซึ่งในเวอร์ชันนี้มีการปรับดีไซน์ให้กดง่าย และดูสบายตาขึ้น โดยมีทางลัดสำหรับการตั้งค่าที่ใช้บ่อยๆ เช่น Wi-Fi, โหมดเงียบ, Bluetooth, ไฟฉาย, ตัดแสงสีฟ้าบนหน้าจอ (การปกป้องในเวลากลางคืน), ปรับความสว่างหน้าจอ เป็นต้น ส่วนด้านล่างจะแสดงแถบแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่างๆ หากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการขยายเมนูทางลัด

หากกดที่ไอคอนสามขีดด้านขวาบน จะเป็นการ ปรับแต่งเมนูทางลัด โดยเราสามารถเลือกไอคอนการตั้งค่าที่เราต้องการเข้ามาไว้ในแถบเมนู หรือลบทางลัดที่มีอยู่แล้วออกจากเมนูก็ได้

เมื่อปัดนิ้วบนหน้าจอหลักไปทางซ้าย จะแสดง รายการแอปพลิเคชันทั้งหมด ที่ติดตั้งไว้ในตัวเครื่อง หากจำนวนแอปแสดงจนเต็มหน้า ก็จะเพิ่มหน้าใหม่โดยอัตโนมัติ

หากปัดจอไปทางขวาจะเป็นการเปิดหน้าต่าง ผู้ช่วยอัจฉริยะ ซึ่งจะรวมข้อมูลสำคัญๆ เอาไว้ เช่น การพยากรณ์อากาศ, ปฏิทิน, ทางลัดการเข้าถึงแอปพลิเคชัน, การนับก้าว และรายชื่อผู้ติดต่อที่เราบันทึกไว้เป็นเบอร์โปรด เป็นต้น

เมื่อกดค้างตรงพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลัก หรือลาก 2 นิ้วบนหน้าจอเข้าหากัน จะเข้าสู่ เมนูการปรับแต่งหน้าจอ ซึ่งเราสามารถเพิ่มวิดเจ็ต, เปลี่ยนภาพพื้นหลัง, ปรับแต่งแอนิเมชันการเปลี่ยนหน้า และตั้งค่าปลีกย่อยอื่นๆ ได้

ใช้นิ้วลากวิตเจ็ตที่ต้องการเพิ่มจากด้านล่างเข้าไปวางในหน้าจอหลักได้ทันที และเลือกเปลี่ยนแอนิเมชันการเปลี่ยนหน้าได้ 5 แบบ

สมาร์ทโฟนของ realme ในปัจจุบันมีร้านค้าธีม และวอลเปเปอร์ทางการของ realme ให้เลือกดาวน์โหลดไปใช้งานกันตามใจชอบ ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีทุกรายการ และคาดว่า realme จะทยอยเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ เข้ามาในอนาคต รวมไปถึงคอนเทนต์บางอย่างที่ต้องเสียเงินซื้อด้วย

สำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานที่ติดมากับเครื่องจะอยู่ในโฟลเดอร์ เครื่องมือ ซึ่งมีสมุดรายชื่อผู้ติดต่อ, เครื่องมือบันทึกเสียง, เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข, เครื่องมือคัดลอกข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ เป็นต้น

และยังมีแอปพลิเคชันของ Google ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Gmail, YouTube, Maps, Google Drive รวมถึงแอปพลิเคชันงานเอกสาร Google Docs, Google Sheet และ Google Slides นอกจากนี้ในส่วนของ Hot Apps ยังมีการแนะนำแอปพลิเคชันและเกมที่น่าสนใจให้กับเรา ซึ่งเราจะติดตั้งหรือไม่ก็ได้

นอกเหนือไปจาก Play Store แล้ว realme 5 ยังมี App Store ซึ่งเป็นสโตร์เฉพาะของ realme ติดตั้งมาในเครื่องด้วย ซึ่งแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ในนี้จะเป็นแอปพลิเคชันที่มีอยู่แล้วใน Google Play Store แต่จะมีการคัดแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยม และน่าสนใจมานำเสนออีกทีหนึ่ง ซึ่งอาจช่วยให้เราพบแอปพลิเคชันถูกใจได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องไปค้นหาด้วยตนเองให้เสียเวลา

สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทร มีหน้าอินเตอร์เฟซที่สะอาดและเรียบง่าย ตัวเลขไม่ใหญ่มากแต่ยังเห็นได้ชัดเจน และไม่เป็นอุปสรรคต่อการกด

นอกจากการเปลี่ยนภาพพื้นหลังและเพิ่มวิตเจ็ตแล้ว ยังมีการตั้งค่าปลีกย่อยอื่นๆ อีก เช่น การปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอ, ความสว่าง, การหมุน, ขนาดตัวอักษร เป็นต้น ส่วน การปกป้องในเวลากลางคืน จะเป็นการลดแสงสีฟ้าในหน้าจอ ทำให้หน้าจอมีโทนสีเหลือง และสบายตากว่าเมื่อใช้งานในที่มืด ในขณะเดียวกัน ยังสามารถปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เป็นจอสี, จอขาวดำ และเปลี่ยนตัวอักษรบนจอให้เป็นสีขาวบนพิ้นหลังสีดำได้ด้วย

และยังสามารถปรับขนาดตัวอักษรที่แสดงบนหน้าจอได้ 5 ขนาด

สามารถเปิดใช้ลิ้นชัก (Drawer) บนหน้าจอหลักได้ ซึ่งในโหมดนี้แอปพลิเคชันทั้งหมดจะรวมอยู่ในหน้าลิ้นชัก และไม่เพิ่มเข้าไปในหน้าจอหลัก (ยกเว้นเราเพิ่มเข้าไปเอง) ช่วยให้หน้าจอหลักดูมีระเบียบมากขึ้น หรือถ้ารู้สึกว่าหน้าจอดูโล่งเกินไป ก็สามารถเลือกจำนวนการแสดงแอปพลิเคชันบนหน้าจอได้เช่นกัน

realme 5 มีแอปพลิเคชัน ตัวจัดการโทรศัพท์ สำหรับปรับปรุงระบบของตัวเครื่องให้ทำงานราบรื่นอยู่เสมอ โดยสามารถล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น, สแกนไวรัส และตรวจสอบปัญหาการทำงานของอุปกรณ์โดยรวม เมื่อเปิดแอปนี้ขึ้นมา ตัวแอปจะตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบทันที หากผลการประเมินต่ำกว่า 100 เราสามารถ กดปุ่ม "ไปที่การปรับปรุง" เพื่อให้ระบบจัดการโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

ในส่วนของเมนู ทำความสะอาด จะแสดงการใช้งานหน่วยความจำภายใน และปริมาณของไฟล์ขยะที่ลบทิ้งได้ เมื่อกดปุ่ม "ทำความสะอาด" จะลบไฟล์ขยะในหมวดนั้นๆ ทันที ซึ่งเราสามารถเลือกลบเฉพาะบางไฟล์ได้เช่นกัน

เมนู การอนุญาตสำหรับความเป็นส่วนตัว จะอนุญาตให้เรา เข้าไปจัดการสิทธิการเข้าถึงของแต่ละแอปได้ พร้อมทั้งเลือกแอปพลิเคชันที่จะทำงานทันทีเมื่อเปิดเครื่อง และเลือกแอปพลิเคชันที่จะให้แสดงเป็นหน้าต่างลอยซ้อนบนแอปอื่นๆ ได้ด้วย

เมนู การสแกนไวรัส จะเป็นการสแกนไฟล์ในเครื่องทั้งหมดเพื่อหามัลแวร์ หรือไฟล์อันตรายต่างๆ และจะลบทิ้งโดยอัตโนมัติหากตรวจพบ การสแกนใช้เวลาไม่นานมาก แนะนำว่าควรจะสแกนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง

เมนู การปกป้องการชำระเงิน เป็นการตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของตัวเครื่อง ตั้งแต่สถานะการรูทเครื่อง ไปจนถึงการตรวจสอบแพทช์รักษาความปลอดภัย และการตั้งค่าปลีกย่อยอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสมาร์ทโฟนไม่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และพร้อมที่จะทำธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตได้

เมนู การทดสอบประจำ เป็นฟังก์ชันการตรวจหาความผิดปกติของฮาร์ดแวร์ โดยจะมีคำแนะนำให้ผู้ใช้ทำตามเพื่อตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์แต่ละส่วนไปทีละขั้น ตอน ช่วยให้เราตรวจสอบได้เองในเบื้องต้นว่าเครื่องเสียตรงไหน และบอกข้อมูลให้กับช่างเมื่อส่งซ่อมได้

ในส่วนของตัวเลือกด้านความปลอดภัย มีตัวเลือกการตั้งรหัสผ่าน, PIN หรือรูปแบบการลากแพทเทิร์น เพื่อใช้ปลดล็อกหน้าจอเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป และสามารถ ลงทะเบียนลายนิ้วมือ เพื่อใช้ปลดล็อกหน้าจอ หรือใช้ยืนยันตัวตนแทนรหัสผ่านในแอปพลิเคชันต่างๆ ได้

นอกจากนี้ยังมี ระบบสแกนใบหน้า (AI Facial-Unlock) ให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งจะปลดล็อกได้เร็วกว่าการสแกนลายนิ้วมือ แต่อาจจะไม่รัดกุมเท่า เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าในแอปพลิเคชัน ตัวจัดการโทรศัพท์ จะไม่มีเมนูจัดสรรการใช้แบตเตอรี่ แต่เราสามารถเข้าไปจัดการได้ใน การ ตั้งค่า > แบตเตอรี่ ซึ่งระบบจะตรวจสอบการใช้แบตเตอรี่ของแต่ละแอป และปิดการทำงานพื้นหลังของแอปบางตัวโดยอัตโนมัติ ส่วนแอปที่ใช้พลังงานมาก และฟังก์ชันต่างๆ เช่น GPS หรือ Bluetooth นั้น เราสามารถเลือกที่จะปิด หรือไม่ปิดก็ได้

มาดูที่การแสดงผลหน้าเว็บไซต์กันบ้าง โดย realme 5 นั้นจะมีเบราว์เซอร์มาตรฐานติดตั้งมาให้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ที่ค่อนข้างเร็ว และเสถียรไม่แพ้เบราว์เซอร์ยอดนิยมอื่นๆ

เมื่อเรียกเมนูด้านล่างขึ้นมาจะพบกับทางลัดฟังก์ชันต่างๆ เช่นเพิ่ม Bookmark, ดูไฟล์ที่ดาวน์โหลด, ปิดการแสดงรูปภาพเพื่อประหยัดข้อมูลอินเทอร์เน็ต, และเปิดโหมดกลางคืน ซึ่งในโหมดกลางคืนหน้าต่างของเบราว์เซอร์จะเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้ม พร้อมกับทำให้แสงไฟหน้าจอทึบลง ช่วยให้อ่านบทความบนเว็บไซต์ได้สบายตายิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย

ในส่วนของ แกลเลอรี สำหรับดูภาพถ่าย และวิดีโอที่เก็บไว้ในเครื่องจะมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่เอาไว้ตามวันที่ถ่าย หรือเลือกดูแบบอัลบั้มซึ่งแบ่งตามประเภทของไฟล์ก็ได้ตามสะดวก

เราสามารถตกแต่งภาพในแกลเลอรีได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการหมุนภาพ, ใส่ฟิลเตอร์, คร็อปตัด, กลับด้าน, ปรับระดับบิวตี้, เพิ่มสติ๊กเกอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับการฟังเพลง realme 5 มีแอปพลิเคชันพื้นฐานติดตั้งมาให้อยู่แล้ว โดยมีดีไซน์ที่เรียบง่ายสะอาดตา ที่แผงควบคุมด้านล่างมีทางลัดการตั้งค่าสำหรับเรียกดู Playlist, ตั้งค่าระบบเสียง Real Original Sound, เล่นเพลงแบบวนซ้ำ (ซ้ำเพลงเดียว / ซ้ำทั้งอัลบั้ม / สุ่มลำดับเพลง) และตัวเลือกการตั้งค่าเพิ่มเติมอื่นๆ

Real Original Sound เป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้เมื่อเชื่อมต่อหูฟัง โดยจะทำให้เราตั้งค่า Equalizer ให้เข้ากับคอนเทนต์ต่างๆ เช่นการฟังเพลง, ดูหนัง หรือเล่นเกม หรือจะตั้งค่า Equalizer ด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน

สำหรับแอปพลิเคชันการเล่นวิดีโอของ realme 5 มีปุ่มควบคุมการทำงานพื้นฐานครบถ้วน สามารถเล่นวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD ได้อย่างราบรื่น

หากวิดีโอที่เล่นมีอัตราส่วนไม่พอดีกับหน้าจอ จะเหลือแถบสีดำด้านข้างเอาไว้ หากต้องการดูแบบเต็มจอให้กดที่ ไอคอนลูกศร 4 ดอก ตรงมุมขวาบน ระบบจะ ขยายภาพให้เต็มโดยจะมีบางส่วนล้นออกไป

พื้นที่สีเขียวในภาพคือส่วนที่จะล้นออกไปเมื่อขยายเต็มหน้าจอ

สำหรับไอคอนที่เป็น 5 ขีดเรียงกัน จะทำให้วิดีโอ เล่นเฉพาะเสียงเท่านั้น ส่วนไอคอนรูปแม่กุญแจ จะเป็นการ ล็อกหน้าจอ เพื่อ ป้องกันไม่ให้เผลอไปกดโดนหน้าจอ ระหว่างดูวิดีโอ

realme 5 รองรับ การใช้งาน 2 แอปพลิเคชันพร้อมกันในหน้าจอเดียว เราสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ได้ด้วยการปัดนิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเปิดหน้า Recent Apps จากนั้น กดที่ไอคอน 3 ขีด มุมขวาบนของแอป แล้วเลือก หน้าจอแบ่ง แอปนั้นๆ จะถูกเปิดขึ้นมาแบบครึ่งจอทันที จากนั้นให้เราเลือกเปิดแอปที่ต้องการในหน้าจอข้างล่าง เพียงเท่านี้ก็เปิดแอปพลิเคชันพร้อมกันได้แล้ว

ในส่วนของการเล่นเกม realme 5 มีฟีเจอร์เสริมสำหรับเล่นเกม Game Space ซึ่งช่วยเร่งประสิทธิภาพการประมวลผลและปิดกั้น การแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้มาขัดจังหวะการเล่น เราสามารถ เพิ่ม เกมเข้ามาใน Game Space ได้ด้วยการกดที่เครื่องหมาย + แล้วเลือกเกมที่ต้องการ หรือจะเพิ่มแอปพลิเคชันทั่วไปที่ไม่ใช่เกมก็ได้ ซึ่งแอปที่เพิ่มเข้ามาก็จะได้รับการเร่งความเร็ว และปิดกั้นการแจ้งเตือนด้วย

แถบเมนูด้านล่างสามารถปัดขึ้นเพื่อดูการตั้งค่าเพิ่มเติมได้ โดยจะแสดง ระยะ เวลาใช้งานของแบตเตอรี่ที่เหลือ โดยประมาณ และ ความ แรงของสัญญาณ Wi-Fi ปุ่มด้านซ้ายที่เป็นรูปมาตรวัดเป็นเมนูปรับระดับความเร็วของเครื่อง โดย โหมดประสิทธิภาพสูง จะเป็นการเร่งระดับความเร็วสูงสุด ทำให้ภาพในเกมสวยขึ้น ลื่นขึ้น แต่จะเปลืองแบตเตอรี่มากตามไปด้วย ส่วน โหมดใช้พลังงานต่ำ จะปรับลดความเร็วลงเพื่อเน้นการประหยัดแบตเตอรี่ และ โหมดสมดุล จะเป็นโหมดที่สมดุลระหว่างความเร็วและการประหยัดพลังงาน สำหรับปุ่มด้านขวาจะเป็นการเลือกบล็อกสายโทรเข้า, บล็อกการแจ้งเตือน หรือจะบล็อกทั้งคู่ก็ได้เช่นกัน

อีกฟังก์ชันหนึ่งคือการ ล็อกความสว่างของหน้าจอ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหรี่แสงบนหน้าจอเองระหว่างเล่น และมีการตั้งค่าปลีกย่อยอื่นๆ ให้ปรับแต่งได้ตามอัธยาศัย

เมื่อเข้าเกมมาแล้ว เรายังสามารถ ปัดหน้าจอทางซ้ายเพื่อเรียกใช้ เมนูลัด ได้ ซึ่งแต่ละปุ่มมีการใช้งานดังนี้

ห้ามรบกวน : บล็อกการแจ้งเตือน ไม่รับสาย : ตัดสายเรียกเข้าอัตโนมัติ เล่น AFK : เปิดโหมด AFK (Away From Keyboard)โดยเกมจะยังเล่นต่อไปตามปกติ แต่จะปิดหน้าจอเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ เหมาะสำหรับเกมที่ต้องปล่อยบอทฟาร์มของ หรือเก็บเลเวล ภาพหน้าจอ : บันทึกภาพหน้าจอ บันทึกจอ : บันทึกคลิปการเล่น ข้อความ : ส่งข้อความ SMS

ตัวอย่างหน้าจอการเล่นในโหมด AFK

ในการรีวิวครั้งนี้ ทางทีมงานได้เลือกเกมมาทดสอบ 3 เกมด้วยกัน ได้แก่ PUBG Mobile , Chess Rush และ RoV เล่น ติดต่อกันเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พบว่า realme 5 สามารถเล่นเกมทั้ง 3 เกมได้อย่างราบรื่นในระดับกราฟิกปานกลาง โดยเกม RoV สามารถเปิดใช้ภาพ HD และเปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้ ส่วน PUBG Mobile สามารถปรับระดับกราฟิกได้สูงสุดที่ระดับกลาง และ Chess Rush สามารถปรับระดับกราฟิกสูงสุด พร้อมทั้งเปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้อย่างไม่มีปัญหา แต่โดยรวมยังมีอาการกระตุกให้เห็นอยู่บ้างในจังหวะโหลดเข้าเกม หรือเปลี่ยนฉาก อย่างไรก็ดี ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้มีพื้นที่สำหรับปุ่มต่างๆ มาก ส่งผลให้ควบคุมได้ง่าย และยังเล่นได้อย่างยาวนานจากพลังของแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ในภาพรวมแล้วถือว่า realme 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับการเล่นเกม เพราะมีจอใหญ่ ควบคุมง่าย แต่ในด้านกราฟิกอาจจะไม่โดดเด่นมากเท่าไหร่ครับ

realme 5 วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้ 140074 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน Geekbench 4 ได้ 1526 คะแนนสำหรับการประมวลผลแกนเดี่ยว (Single-Core) และ 5556 คะแนนสำหรับการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core)

สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 1084 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 1049 คะแนน

realme 5 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 AIE แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.0 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 610 , หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง realme 5 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

ระบบ GPS สามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 47 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 8 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา

การใช้งานกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

หากกดที่ไอคอนสามขีดด้านซ้าย จะพบกับโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ และมีโหมด ผู้เชี่ยวชาญ (โหมดโปร) ให้ ใช้ด้วย ซึ่งสามารถปรับแต่งค่าการเปิดรับแสง (Exposure), สมดุลแสงขาว (WB), การโฟกัส (AF/MF) และการชดเชยแสง (EV) แต่ไม่สามารถปรับค่าความไวแสง (ISO) ได้ ส่วนโหมด ทิวทัศน์กลางคืน จะเป็นการเพิ่มความสว่าง และความคมชัดในเวลากลางคืนโดยไม่ใช้แฟลช ซึ่งเรามีตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดนี้มาให้ชมกันในส่วนถัดไป

กล้องหลังของ realme 5 รองรับการถ่ายภาพนิ่งได้ 3 อัตราส่วน ได้แก่ 4:3 (ค่าเริ่มต้น), 1:1 และ เต็มจอ (20:9) ส่วนการบันทึกวิดีโอปรับความละเอียดได้ 3 ระดับ คือ 720p (HD), 1080p (FHD) และ 4K (QHD)

ในส่วนของกล้องหน้ามีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล จุดเด่นคือเทคโนโลยี AI Beautification ที่ปรับแต่งใบหน้าได้อย่างละเอียดทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นสีผิว, การลบจุดด่างดำ, ลบจุดหมองคล้ำ, เพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตา ไปจนถึงการปรับโครงหน้าให้เรียวเข้ารูป ส่วนการบันทึกวิดีโอด้วยกล้องหน้า ปรับความละเอียดได้ 2 ระดับ คือ 720p (HD) และ 1080p (FHD)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 12+8+2+2 ล้านพิกเซล

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติแบบมุมกว้าง เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติแบบมุมกว้าง เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติแบบมุมกว้าง เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติแบบมุมกว้าง เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดบุคคล (Portrait) เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิด AI Beautification ระดับ 50 (ปานกลาง) เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิด AI Beautification ระดับ 100 (สูงสุด) เปิดฟีเจอร์สีตื่นตา เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางคืน

ถ่ายด้วยโหมดทิวทัศน์กลางคืน (Nightscape)

ถ่ายด้วยโหมดทิวทัศน์กลางคืน (Nightscape)

ถ่ายด้วยโหมดทิวทัศน์กลางคืน (Nightscape)

ถ่ายด้วยโหมดทิวทัศน์กลางคืน (Nightscape)

ถ่ายด้วยโหมดทิวทัศน์กลางคืน (Nightscape) แบบมุมกว้าง

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ ปิด AI Beautification

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิด AI Beautification ระดับ 30

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิด AI Beautification ระดับ 70

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิด AI Beautification ระดับ 100 (สูงสุด)

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล (Portrait)

สรุปผลการทดสอบของ realme 5

โดยสรุปแล้ว realme 5 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการหลักๆ ของผู้ใช้ นั่นคือหน้าจอใหญ่, แบตเตอรี่อึด และกล้องที่ถ่ายรูปได้ดี โดยลดทอนคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่ค่อยจำเป็นลงไป เพื่อให้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด และคุ้มค่าที่สุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็นับว่าน่าประทับใจทีเดียว

ด้านการใช้งานทั่วไป realme 5 สอบผ่านอย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการโทร, วิดีโอคอล, ท่องเว็บไซต์, เล่นโซเชียล, ดูหนัง, ฟังเพลง หรือเล่นเกม ก็ทำได้โดยไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ ด้วยพลังจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 AIE ที่มีความเร็วสูงสุด 2.0 GHz จับคู่กับหน่วยความจำ RAM สูงสุด 4GB ส่วนหน่วยหน่วยความจำ ROM นั้น มีมาให้สูงสุด 128GB ซึ่งถือว่ากำลังดี สามารถเก็บเพลง, ภาพถ่าย, แอปพลิเคชัน และเกมได้มากพอสมควร หรือถ้ารู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ ก็สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมด้วยการ์ด microSD ได้อีก สูงสุด 256GB ที่สำคัญยังไม่ต้องสละซิมการ์ดเพื่อติดตั้ง microSD ด้วย เพราะมี ถาดใส่ซิมแบบ 3 ช่อง (Triple Slot) จึงสามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม และการ์ด microSD ได้พร้อมกัน

สำหรับการถ่ายภาพ realme 5 ทำผลงานได้น่าประทับใจสำหรับสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน แม้กล้องตัวหลักจะมีความละเอียดเพียง 12 ล้านพิกเซล ต่ำกว่ากล้อง realme 5 Pro ที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซลอย่างชัดเจน แต่ภาพถ่ายที่ได้นั้นมีคุณภาพที่ไม่หนีกันมาก และตัวกล้องยังมีฟีเจอร์ที่สูสีกัน โดยทำได้ทั้งการถ่ายภาพมุมกว้างผ่านกล้องเลนส์ Ultra Wide 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, สร้างเอฟเฟกต์เบลอฉากหลังด้วยกล้อง Portrait (Depth Sensor) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และถ่ายภาพโคลสอัพได้ด้วยกล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ได้ใกล้สุดที่ระยะ 4 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีลูกเล่นมากมาย เช่นโหมดสีตื่นตา ที่ช่วยให้ภาพมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น และโหมดทิวทัศน์กลางคืน (Nightscape) ที่ทำให้ถ่ายภาพบรรยากาศยามราตรีได้อย่างสวยงามโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งช่วย นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้สวยเกินราคาไปมากทีเดียว

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 5,000 mAh ซึ่งเยอะกว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในระดับราคาเดียวกัน และเยอะกว่ารุ่นพี่อย่าง realme 5 Pro ที่มีแบตเตอรี่มาให้ 4,035 mAh ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า  เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูซีรีส์ต่อเนื่องหลายชั่วโมงระหว่างเดินทาง และการปล่อยบอทในเกมทิ้งไว้ระหว่างวัน แต่ถึงแม้จะมีความจุแบตเตอรี่ที่สูง แต่ก็แลกมากับการที่ไม่รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 เหมือน realme 5 Pro จึงใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน

ในส่วนของการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีพอสมควร เนื่องจากมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ที่ทำให้มองเห็นฉากในเกมได้กว้าง และชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ปุ่มควบคุมต่างๆ บนจอไม่ชิดกันเกินไป ทำให้ควบคุมได้ง่ายขึ้นด้วย ในเชิงประสิทธิภาพ ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 AIE ที่มีหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 สามารถรับมือกับเกมกระแสหลักในปัจจุบันได้เกือบทุกเกม เช่น RoV หรือ PUBG Mobile แต่ถ้าต้องการให้เฟรมเรตสูง และนิ่ง อาจจะต้องปรับกราฟิกให้อยู่ในระดับกลางๆ เพราะตัวชิปเซ็ตมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับกลางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ชดเชยด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่ทำให้เล่นได้นานกว่า และเหมาะกับการปล่อยบอท ดังนั้น หากไม่ได้ซีเรียสว่าต้องเล่นเกมที่มีภาพสวยงามขั้นสุดตลอด realme 5 Pro ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคนชอบเล่นเกม และมีงบไม่มากครับ

ซึ่งฟีเจอร์อันโดดเด่นข้างต้นถูกใส่ไว้ในตัวเครื่องดีไซน์ใหม่แบบ New Crystal Design ที่งดงามเปล่งประกายดั่งเพชร ด้วยเทคโนโลยีการทำสีสุดล้ำแบบ Nano Holographic Color

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สามารถกล่าวได้ว่า realme 5 เป็นสมาร์ทโฟนประหยัดที่คุ้มค่าเป็นพิเศษอีกรุ่นหนึ่ง ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกประเภท โดยเฉพาะการถ่ายภาพ, ดูภาพยนตร์ และเล่นเกม มีจุดเด่นที่หน้าจอขนาดใหญ่ และแบตความจุ 5000 mAh รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิง, ถ่ายรูปได้ดี และใช้งานได้ยาวนาน ในช่วงราคาไม่เกิน 5-6 พันบาทครับ

realme 5 วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในราคา 4,599 บาท สำหรับรุ่น 3+64GB และ 5,999 บาท สำหรับ รุ่น 4+128GB โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี น้ำเงิน Crystal Blue และ สี ม่วง Crystal Purple สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง realme ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง realme 5 มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ด้วยครับ

จุดเด่นของ realme 5

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ New Crystal Design ที่เปล่งประกายคล้ายเพชรเมื่อกระทบกับแสงไฟ ด้วยเทคโนโลยี Nano Holographic Color - ตัวเครื่องมีการซีลป้องกันละอองน้ำ หรือน้ำกระเซ็น (Airtight Waterproof) - ตัวเครื่องขนาด 164.4x75.6x9.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 198 กรัม - หน้าจอแสดงผลแบบ Mini-drop Fullscreen IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมรอยบากทรงหยดน้ำ ความละเอียดระดับ HD+ (720x1600 พิกเซล) ในอัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 20:9 โดยมีสัดส่วนจอแสดงผลกับตัวเครื่องที่ 89% - ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 AIE แบบ Octa-Core Processor ที่มีความเร็ว 2.0 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Adreno 610 - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย ColorOS 6.0 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3/4 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ความจุ 64/128 GB - กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย

> กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.8, เทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel, เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.9 นิ้ว และระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF > กล้องเลนส์ Ultra Wide-Angle กว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.25 และเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/4 นิ้ว > กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ถ่ายได้ใกล้สุดที่ระยะ 4 เซนติเมตร พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4 และเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/5 นิ้ว > กล้อง Portrait (Depth Sensor) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4, สไตล์ถ่ายภาพบุคคล 6 แบบ และเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/5 นิ้ว

- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0 พร้อมเทคโนโลยี AI Beautificationที่สามารถปรับโครงหน้าได้อย่างอิสระ - รองรับฟังก์ชัน AI Scene Recognition ช่วยวิเคราะห์และตกแต่งภาพโดยอัตโนมัติ - รองรับโหมดการถ่ายภาพกลางคืน (Ultra Night Mode 2.0) ที่ช่วยให้ภาพถ่ายในที่มืดสว่างและคมชัดขึ้นโดยไม่ต้องใช้แฟลช - กล้องดิจิทัลด้านหลังรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K (30fps) - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง - ฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า (AI Face Unlock) - ฟังก์ชัน App Encryption และ Private Safe เพื่อความเป็นส่วนตัว - ระบบเสียง Real Original Sound สำหรับปรับแต่ง Equalizer เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟัง - แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh พร้อมเทคโนโลยี AI Cooling - ฟีเจอร์ Game Space ที่สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่างๆ รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอขณะเล่นเกมได้ - ระบบ GPS+A-GPS ในตัว - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G/4G+, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac , Bluetooth 5.0 - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual nano-SIM) - ช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร - มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก ได้แก่ Crystal Blue และ Crystal Purple - ราคาเริ่มเพียง 4,599 บาท (รุ่น 3+64GB) และ 5,999 บาท (รุ่น 4+128GB) ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ realme 5

- ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB - หน้าจออัตราส่วน 20:9 ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ - ตัวเครื่องหนา และหนักกว่าสมาร์ทโฟนจอ 6.5 นิ้วทั่วไปบ้าง ด้วยแบตเตอรี่ที่ใหญ่ถึง 5000 mAh - ไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง - หน้าจอแสดงผลมีความละเอียดเพียงระดับ HD+ - ปรับระดับความเบลอฉากหลังในโหมด Portrait ไม่ได้ - ใช้ฟีเจอร์ AI Beautification ในโหมด Portrait ไม่ได้

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจากศูนย์บริการ คุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองเพื่อความมั่นใจครับ *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

Leave a Comment