รีวิว Huawei Y9 Prime 2019 สมาร์ทโฟนกล้องหน้า Pop-Up พร้อม AI Triple Camera กับจอใหญ่ไร้รูไร้รอยบาก ในราคาสุดคุ้ม:: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทโฟนกล้องหน้า Pop-Up พร้อม AI Triple Camera กับจอใหญ่ไร้รูไร้รอยบาก ในราคาสุดคุ้ม ด้วยจอ Zero Notch Ultra FullView ใหญ่ 6.59 นิ้ว, กล้องหน้า AI Selfie เด้งได้รุ่นแรกของค่าย ผสานกล้องหลัง AI Triple Camera มุมกว้างแบบ Ultra Wide, ชิปเซ็ต Kirin 710F, ROM 128GB+RAM 4GB และแบตเตอรี่จุใจ 4000 mAh บนตัวเครื่องดีไซน์ 3D Curved สีทูโทนสวยสะดุดตา ในราคาคุ้มค่าเพียง 7,990 บาท

2 กันยายน 2019 - สวัสดีครับ กลับมาพบกับรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดโดยทีมงาน Thaimobilecenter กันอีกเช่นเคย แม้ว่าจะเข้าใกล้ช่วงปลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวออกมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางราคาย่อมเยา และเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซีรีส์สมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอดอย่าง Huawei Y Series ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด นั่นคือ Huawei Y9 Prime 2019 แต่ครั้งนี้น่าสนใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมากับคุณสมบัติที่หาไม่ได้ในสมาร์ทโฟนระดับกลางทั่วไป นั่นคือ หน้าจอไร้ขอบ-ไร้รู-ไร้รอยบากแบบ Zero Notch Ultra FullView Display ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.59 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ และ กล้องหน้า Pop-Up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ Huawei ที่มีกล้องเซลฟี่ลักษณะแบบนี้ ทำให้น่าจับตามองเป็นพิเศษในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 10,000 บาทครับ

Huawei Y9 Prime 2019 มีดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบง่ายสวนทางกับเทรนด์ไล่เฉดสีในปัจจุบัน โดยเป็นสีพื้นเข้มตัดอ่อนแบบทูโทน พร้อมเคลือบผิวเงาวาวดูเรียบง่ายสบายตา ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผลระดับกลาง Kirin 710F (Octa-Core) ความเร็ว 2.2 GHz ที่มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G51 MP4 ประกบคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB จึงรองรับได้ทุกความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ฟังเพลง หรือเล่นเกม อีกทั้งยังมีระบบเสียง Huawei Histen ที่ช่วยเพิ่มความสมจริงของเสียงเมื่อใช้หูฟัง และเทคโนโลยี GPU Turbo 2.0 ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหล และประหยัดแบตเตอรี่ยิ่งขึ้นอีกด้วย นอก

จากจอใหญ่เต็มตา, กล้องหน้า Pop-Up และสเปกที่คุ้มค่าตัวแล้ว Huawei Y9 Prime 2019 ยังมี กล้องหลังถึง 3 ตัว (Triple Camera) โดยกล้องตัวหลักมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับกล้องเลนส์ Ultra-Wide 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์วัดความลึกความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จึงสามารถถ่ายภาพทิวทัศน์แบบ Landscape และถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ Portrait ได้อย่างโดดเด่น พร้อมด้วยลูกเล่นมากมาย เช่น โหมดกลางคืน ที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภายถ่ายยามราตรีโดยไม่ต้องใช้แฟลช, เอฟเฟกต์แสงไฟสตูดิโอ 3D Portrait Lighting 4 แบบ และที่ขาดไม่ ได้คือ ระบบวิเคราะห์ภาพด้วย AI ที่จำแนกองค์ประกอบภาพ และปรับแต่งให้สวยงามที่สุดให้โดยอัตโนมัติ

ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมานี้ Huawei Y9 Prime 2019 นับเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างรอบด้าน และมีฟีเจอร์ต่างๆ อัดแน่นเกินค่าตัว และในวันนี้ เราจะมารู้จักสมาร์ทโฟนสุดคุ้มรุ่นนี้กันมากขึ้น ใน รีวิว Huawei Y9 Prime 2019 ด้านล่างนี้ครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Huawei Y9 Prime 2019 เป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่มีความโดดเด่นอยู่ที่หน้าจอแสดงผล LTPS (TFT LCD) แบบ Ultra FullView Display ขนาดใหญ่ถึง 6.59 นิ้ว ที่ไม่มีรอยบากใดๆ หรือรูใด เข้ามาบดบังสายตา ทำให้แสดงคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ในอัตราส่วน 19.5:9 บนความละเอียดะดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล)

ตัวเครื่องด้านหลังมีดีไซน์เรียบง่าย โดยมีการแบ่งเฉดสีเป็นแบบทูโทนเข้ม และอ่อน พร้อมเคลือบผิวมันเงา ไม่มีการไล่เฉดสีแบบ Gradient ขอบเครื่องทั้งสี่ด้านมีความโค้งมนรับกับฝ่ามือ สำหรับตัวเครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็น สีดำ Midnight Black

สำหรับกล้องหน้าเป็นกล้อง Pop-Up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ที่จะเลื่อนขึ้นเองเมื่อเปิดใช้งานกล้องหน้า และจะเก็บไว้ในตัวเครื่องอย่างมิดชิดตลอดเวลาเมื่อไม่ใช้งาน ส่วนเรื่องความทนทาน ทาง Huawei การันตีว่าตัวกล้องสามารถรับแรงกดได้ถึง 15 กิโลกรัม และเลื่อนขึ้น-ลงได้มากกว่า 1 แสนครั้ง จึงใช้งานได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลมาก

กล้องหลังทั้ง 3 ตัวจัดวางในแนวตั้งที่มุมบนซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยกล้องตัวหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, กล้องเลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และกล้องวัดระยะ (Depth Sensor) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ใต้กล้องมีไฟแฟลช LED และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบมาตรฐานติดตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางตัวเครื่อง

บอดี้ของ Huawei Y9 Prime 2019 ล้อมด้วยเฟรมโค้งมนสีเดียวกับตัวเครื่อง ขอบเครื่องด้านซ้ายไม่มีปุ่มกดใดๆ ส่วนด้านขวามีปุ่ม Power (ปุ่มสั้น) และปุ่มปรับระดับเสียง (ปุ่มยาว)

ด้านบนเป็นที่อยู่ของโมดูลกล้อง Pop-Up, ถาดใส่ซิมการ์ด และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และช่องลำโพงเสียงภายนอก

ถาดใส่ซิมการ์ดของ Huawei Y9 Prime 2019 เป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งสามารถเลือกใส่ 2 ซิมการ์ด หรือใส่ 1 ซิมการ์ดกับหน่วยความจำเสริม microSD (สูงสุด 512GB) อย่างใดอย่างหนึ่ง

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วย เข็มถอดถาดซิมการ์ด, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สาย USB Type-C และหูฟังแบบมาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังมีเคสพลาสติกใสแบบอ่อนแถมมาให้ด้วยในกล่อง ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Huawei Y9 Prime 2019 โดยเฉพาะ และไม่กระทบกับการทำงานของกล้องหน้า Pop-Up แต่อย่างใด

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

เมื่อปลดล็อคหน้าจอ จะพบกับหน้าเริ่มต้น ซึ่งมีแก็ดเจ็ตและแอปพลิเคชันสำคัญๆ จัดเรียงกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ ตามสไตล์ของ EMUI และเมื่อปัดนิ้วไปทางซ้าย จะพบกับรายการแอปพลิเคชันทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ในตัวเครื่อง ซึ่งจะแสดงเป็นหน้าๆ ตามจำนวนแอปพลิเคชัน

เมื่อปัดนิ้วจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะเป็นการเปิด แถบแจ้งเตือน และ เมนูทางลัด ซึ่งรวมการตั้งค่าที่ใช้บ่อยๆ เอาไว้ เช่น เปิด-ปิด WiFi, เปิด-ปิด Bluetooth, หมุนหน้าจออัตโนมัติ, เปิดโหมดเครื่องบิน เป็นต้น และยังสามารถปรับแต่งเมนูทางลัดได้ด้วยกดที่ไอคอนปากกาข้างฟันเฟืองบริเวณมุมขวาบน

หากปัดจอไปทางขวา จะเป็นการเปิดหน้าต่าง HiBoard ซึ่ง จะรวมข้อมูลสำคัญๆ เอาไว้ เช่น สถิติการออกกำลังกาย (ดึงข้อมูลจากแอปพลิเคชัน Huawei Health), แสดงตารางนัดหมาย หรืออีเวนต์ที่บันทึกไว้ในกำหนดการ เป็นต้น

สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทรนั้น มีหน้าอินเตอร์เฟซที่สะอาด และเรียบง่าย ตัวเลขใหญ่ กดง่าย และมองเห็นได้ชัดเจน

ภายในตัวเครื่องมีแอปพลิเคชันของ Google ติดตั้งมาให้อย่างครบครันจากโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น Gmail, YouTube, Maps, Google Drive รวมถึงแอปพลิเคชันงานเอกสาร Google Docs, Google Sheet และ Google Slides ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐานต่างๆ เช่นเครื่องคิดเลข และเข็มทิศ ก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน โดยจะรวมอยู่ในโฟลเดอร์ เครื่องมือ

เมื่อกดค้างตรงพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลักจะเข้าสู่เมนู การปรับ แต่งหน้าจอ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, เพิ่มวิดเจ็ต, ปรับแต่งแอนิเมชันการเปลี่ยนหน้า และการตั้งค่าปลีกย่อยอื่นๆ ได้

สามารถใช้นิ้วลากวิดเจ็ตที่ต้องการเพิ่มจากด้านล่างเข้าไปวางในหน้าจอหลัก ได้โดยตรง และเลือกเปลี่ยนอนิเมชันการเปลี่ยนหน้าได้ 4 แบบ

นอกจากการเปลี่ยนภาพพื้นหลังและเพิ่มวิดเจ็ตแล้ว ยังมีการตั้งค่าปลีกย่อยอื่นๆ อีก เช่น การเปิดใช้ลิ้นชัก (Drawer) ที่จะแสดงแอปพลิเคชันทั้งหมดเมื่อเราปัดนิ้วขึ้น, เปลี่ยนจำนวนของแอปพลิเคชันที่แสดงในแต่ละหน้า หรือจัดเรียงแอปในหน้าให้เข้าที่โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบอยู่เสมอ เป็นต้น

หากต้องการเรียกดู หรือจัดการไฟล์ต่างๆ ในเครื่อง สามารถทำได้ด้วยแอปพลิเคชัน ไฟล์ ซึ่งจะแสดงไฟล์ประเภทต่างๆ เป็นหมวดหมู่ พร้อมแสดงพื้นที่หน่วยความจำที่ใช้ไปแล้ว และที่ยังเหลืออยู่ให้เห็นอย่างชัดเจน

Huawei Y9 Prime 2019 มีแอปพลิเคชัน ตัวจัดการโทรศัพท์ สำหรับการดูแลรักษาอุปกรณ์ ซึ่งจะปรับแต่งการทำงาน, ล้างไฟล์ขยะ, สแกนไวรัส และจัดสรรการใช้แบตเตอรี่ให้ระบบทำงานรวดเร็วอยู่เสมอ เมื่อเปิดแอปพลิเคชันจะมีการสแกนระบบ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราสามารถกดปุ่ม "ปรับปรุง" เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมทั้งหมดได้ในคลิกเดียว

ในส่วนของเมนู ทำความสะอาด จะแสดงการใช้งานหน่วยความจำภายใน และปริมาณของไฟล์ขยะที่ลบทิ้งได้ เมื่อกดปุ่ม "ทำความสะอาด" จะลบไฟล์ขยะในหมวดนั้นๆ ทันที ซึ่งเราสามารถเลือกลบเฉพาะบางไฟล์ได้เช่นกัน

เมนู การใช้ข้อมูล จะแสดงปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต 3G/4G และมีฟังก์ชันจำกัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตของแต่ละแอปพลิเคชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบเติมเงินที่ต้องการควบคุมการใช้อินเทอร์ เน็ตไม่ให้เกินโควตา

เมนู ปิดกั้นแล้ว เป็นฟังก์ชันการบล็อกเบอร์แปลก และข้อความ SMS จากเบอร์ที่เราไม่ต้องการ ช่วยคัดกรองสายโทรเข้าและข้อความได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันภายนอก เพิ่มเติม

ในเมนู แบตเตอรี่ จะแสดงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่, อัตราการใช้พลังงานของแต่ละแอปพลิเคชัน และรายละเอียดการใช้งานตั้งแต่การชาร์จครั้งสุดท้าย โดยสามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติได้

สำหรับเมนู ดรอปโซน เป็นเมนูที่ทำให้เราเปิด-ปิดการแจ้งเตือนแบบ Pop-Up ของแอปพลิเคชันบางตัวได้  เช่น Messenger ที่จะมีไอคอนวงกลมเด้งขึ้นมาเมื่อมีคนแชตหาเรา หากเราเลือกปิดดรอปโซนของ Messenger ไอคอนวงกลมจะไม่แสดงขึ้นมาอีกเมื่อมีการแชตเข้ามา แต่จะแสดงการแจ้งเตือนไว้ในแถบแจ้งเตือนเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้แอปพลิเคชันโซเชียลต่างๆ เด้งขึ้นมารบกวนเราขณะใช้งาน

และเมนู สแกนไวรัส จะแสดงการตรวจพบไวรัส และมัลแวร์ พร้อมกำจัดทิ้งทันที โดยการสแกนไวรัสจะทำงานอยู่ในพื้นหลังตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องสั่งให้ทำการสแกนแต่อย่างใด

สมาร์ทโฟนของ Huawei ในปัจจุบัน จะมีแอปพลิเคชันสโตร์ของตัวเองคือ App Gallery ซึ่งแอปพลิเคชันในนี้จะมีอยู่ใน Play Store อยู่แล้ว แต่ใน App Gallery จะคัดแอปพลิเคชัน และเกมที่น่าสนใจเอาไว้ให้เราค้นหาได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Huawei Y9 Prime 2019 ยังมี โหมดขับขี่ ซึ่งจะปฏิเสธสายโทรเข้าพร้อมกับตอบกลับด้วยข้อความเสียง หรือข้อความ SMS โดยอัตโนมัติ และบนหน้าจอจะมีเพียงปุ่มโทรออกอย่างเดียว เหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาธิในการขับรถ

ในเรื่องของระบบความปลอดภัย Huawei Y9 Prime 2019 รองรับระบบการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ ผ่านเซ็นเซอร์ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งจะต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือของเรากับตัวระบบก่อน ใช้เวลาลงทะเบียนไม่นาน และลงทะเบียนได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ อย่างไรก็ดี Huawei Y9 Prime 2019 ไม่รองรับระบบสแกนใบหน้า ครับ

หากต้องการดูรูปที่ถ่ายไว้ สามารถดูได้ใน แกลเลอรี ซึ่ง จะมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่เอาไว้ตามวันที่ถ่าย หรือเลือกดูแบบอัลบั้มที่แบ่งตามประเภทของไฟล์ก็ได้

เราสามารถตกแต่งภาพในแกลเลอรีได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการหมุนภาพ, ใส่ฟิลเตอร์, คร็อปตัด, กลับด้าน, ปรับระดับบิวตี้, เพิ่มสติ๊กเกอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับการท่องเว็บไซต์บน Huawei Y9 Prime 2019 จะใช้เบราว์เซอร์ Google Chrome เป็นพื้นฐาน ซึ่งก็มีประสิทธิภาพเป็นที่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว แต่ถ้าเราต้องการใช้เบราว์เซอร์อื่นก็เลือกดาวน์โหลดได้ผ่าน Play Store เช่นกัน

ด้านความบันเทิง Huawei Y9 Prime 2019 มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงติดตั้งมาให้แล้ว ซึ่งก็มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่เข้าใจได้ไม่ยาก และมีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าการสับเปลี่ยนเพลง, วนซ้ำ, ดูเพลย์ลิสต์, ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า เป็นต้น

และยังมีเครื่องมือสำหรับตัดเพลงให้ใช้งานด้วย ซึ่งใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก และสามารถตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าได้ทันที

ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจของแอปพลิเคชันฟังเพลงบนสมาร์ทโฟน Huawei คือ Huawei Histen ที่ช่วยให้เสียงมีมิติและสมจริงยิ่งขึ้นเมื่อใช้หูฟัง โดยเราสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับประเภทของหูฟังที่ใช้อยู่ ได้แก่หูฟังแบบ In-Ear, แบบ Earbuds และหูฟังแบบ Headset แต่ถ้าเรามีหูฟังของ Huawei อยู่แล้ว ก็สามารถเลือกตั้งค่าตามรุ่นหูฟังที่เรามีได้เลย

สำหรับการเล่นไฟล์วิดีโอก็มีแอปพลิเคชันของตัวเองติดตั้งมาให้แล้วเช่นกัน โดยมีปุ่มลัดในการ ล็อก การสัมผัสหน้าจอ (รูปแม่กุญแจทางซ้าย) , เปิดวิดีโอแบบ หน้าต่างลอย (ปุ่มสี่เหลี่ยมขวาบน), การตั้งค่าอื่นๆ (ปุ่มสามจุดขวาบน) และปุ่มควบคุมทั่วไป

ในเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม มีตัวเลือกปรับระดับเสียงและความสว่างของหน้าจอ รวมถึงการขยายภาพให้เต็มจอ

คอนเทนต์วิดีโอส่วนใหญ่ เมื่อเปิดบน Huawei Y9 Prime 2019 ที่มีจออัตราส่วน 19.5:9 จะเหลือขอบสีดำด้านข้างเอาไว้ตามภาพ ซึ่งเราสามารถยืดภาพให้เต็มจอได้

ในการแสดงผลแบบเต็มจอ ภาพจะถูกยืดออกด้านข้าง ทำให้สัดส่วนเพี้ยนไปเล็กน้อย

สำหรับการแสดงผลแบบหน้าต่างลอย จะเป็นหน้าต่าง pop-up ขึ้นมาดังภาพ ซึ่งจะแสดงอยู่เหนือแอปพลิเคชันทุกตัว และเคลื่อนย้ายไปบนจอได้

ในส่วนของการเล่นเกมนั้น Huawei Y9 Prime 2019 มีฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมด้วยเช่นกัน ซึ่งก็คือ AppAssistant แต่หากเปิดเครื่องมาแล้วไม่เจอ จะต้องเข้าไปเปิดการใช้งานด้วยตัวเองในการตั้งค่า โดยไปที่ การ ตั้งค่า > แอป > AppAssistant ครับ

หน้าที่ของ AppAssistant มีอยู่ 2 อย่างหลักๆ คือ เร่งความเร็วของเกม และปิดกั้นการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม ช่วยให้เราเล่นเกมได้อย่างราบรื่น และต่อเนื่องโดยไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ

สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกมของ Huawei Y9 Prime 2019 นั้น จัดว่าอยู่ในระดับกลาง โดยสามารถรองรับเกมส่วนใหญ่บน Play Store ได้โดยมีค่าเฟรมเรตอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่อาจจะปรับกราฟิกเป็นระดับสูงสุดไม่ได้สำหรับบางเกม หรือถ้าได้ก็จะไม่ลื่นเท่าที่ควร ในโอกาสนี้ทางทีมงานได้ทดสอบด้วยเกมยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile โดยปรับความสวยงามของกราฟิกไว้ที่ระดับกลาง พบว่าเล่นได้อย่างราบรื่นตลอดเกมโดยไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนเกมอื่นๆ อย่าง Infinity Ops และ Space Armada ที่มีระดับกราฟิกค่อนข้างสูง และต้องมีการหันเปลี่ยนมุมกล้องอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ก็เล่นได้อย่างราบรื่นเช่นกัน โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับเกมเมอร์ทั่วไปที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องกราฟิกว่าจะต้องปรับสุด ทุกเกมครับ

Huawei Y9 Prime 2019 วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้ 131004 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน Geekbench 4 ได้ 1535 คะแนนสำหรับการประมวลผลแกนเดี่ยว (Single-Core) และ 5513 คะแนนสำหรับการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core)

Huawei Y9 Prime 2019 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Hisilicon Kirin 710F แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.2 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G51 MP4 , หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Huawei Y9 Prime 2019 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

ระบบ GPS สามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 30 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 5 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา

การ ใช้งานกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

Huawei Y9 Prime 2019 มีกล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) โดยประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 , กล้องรองเลนส์ Ultra Wide-Angle ที่ให้มุมกว้างพิเศษถึง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และกล้องวัดความลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 จึงเลือกถ่ายภาพได้ 2 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ และ โหมดมุมกว้าง โดยสามารถสลับโหมดอย่างรวดเร็วได้ด้วยการกดที่ไอคอนวงกลมทางขวา หากเปิดการประมวลผลภาพด้วย AI จะมีการวิเคราะห์และจำแนกประเภทของภาพโดยอัตโนมัติ สามารถปิด AI ได้ด้วยการกดที่ ไอคอน AI ที่แถบเมนูด้านบน

Huawei Y9 Prime 2019 มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้หลายโหมด อย่างแรกคือ รูรับแสง ที่ให้เราปรับโฟกัสเบลอพื้นหลังได้ตามต้องการโดยไม่จำเป็นต้องใช้โหมด Portrait

ส่วนโหมด ภาพบุคคล หรือ Portrait ที่เป็นโหมดยอดนิยมนั้น นอกจากจะเลือกเปิดหรือปิดเอฟเฟกต์การเบลอพื้นหลังได้แล้ว ยังสามารถปรับระดับบิวตี้ได้ถึง 10 ระดับ และที่สำคัญ ยังมีลูกเล่น 3D Portrait Lighting สำหรับปรับแสงให้กับตัวแบบได้ 4 สไตล์ ได้แก่ แสงอ่อน, แสงแบบผีเสื้อ, แสงแบบแยก และ แสงบนเวที ช่วยให้ภาพถ่ายมีอารมณ์ที่แตกต่าง ไม่ราบเรียบ หรือจืดชืดเกินไป

และสำหรับตากล้องมืออาชีพ Huawei Y9 Prime 2019 ก็มี โหมดโปร ให้ใช้งานเช่นกัน โดยจะอยู่ในหน้า เพิ่มเติม สามารถปรับแต่งการโฟกัสภาพ, ค่า ISO, ชัตเตอร์สปีด, การชดเชยแสง และสมดุลแสงขาวได้

นอกจากนี้ในหน้า เพิ่มเติม ยังมีโหมดอื่นๆ ให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น HDR, พาโนรามา, ฟิลเตอร์ และอื่นๆ

นอกจากการถ่ายภาพ Huawei Y9 Prime 2019 ยังมีฟีเจอร์ HiVision ที่ใช้แปลภาษา, สแกน QR Code, ค้นหาสถานที่จากภาพ และค้นหาสินค้าบนร้านค้าออนไลน์ได้ด้วย จากการทดสอบพบว่า AI ของ HiVision สามารถวิเคราะห์วัตถุ และแสดงผลการค้นหาได้แม่นยำพอสมควร และยังสามารถนำเราไปยังร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้านั้นๆ อยู่ได้ทันที เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีประโยชน์กับเราในหลายๆ สถานการณ์

ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 16+8+2 ล้านพิกเซล

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ พร้อมเปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ พร้อมเปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ พร้อมเปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติแบบมุมมองกว้าง พร้อมเปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ พร้อมเปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ พร้อมเปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 0 (ต่ำสุด) และเปิดเอฟเฟกต์โบเก้

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 0 (ต่ำสุด) และเปิดเอฟเฟกต์โบเก้

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และเปิดเอฟเฟกต์โบเก้

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 10 (สูงสุด) และเปิดเอฟเฟกต์โบเก้

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และเปิดเอฟเฟกต์แสงอ่อน

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และเปิดเอฟเฟกต์แสงแบบผีเสื้อ

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และเปิดเอฟเฟกต์แสงแบบแยก

ถ่ายด้วยโหมดภาพบุคคล พร้อมเปิดบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และเปิดเอฟเฟกต์แสงบนเวที

ถ่ายด้วยโหมดปกติ เปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน

ถ่ายด้วยโหมดปกติ เปิด AI

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน

ตัวอย่าง ภาพถ่ายจากกล้องหน้า AI Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ถ่ายด้วยโหมดบุคคล โดยปรับบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง)

ถ่ายด้วยโหมดบุคคล โดยปรับบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และใช้ฟีเจอร์ 3D Portrait Lightning โดยเลือกแสงแบบแสงอ่อน

ถ่ายด้วยโหมดบุคคล โดยปรับบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และใช้ฟีเจอร์ 3D Portrait Lightning โดยเลือกแสงแบบผีเสื้อ

ถ่ายด้วยโหมดบุคคล โดยปรับบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และใช้ฟีเจอร์ Portrait Lightning โดยเลือกแสงแบบแยก

ถ่ายด้วยโหมดบุคคล โดยปรับบิวตี้ระดับ 5 (ปานกลาง) และใช้ฟีเจอร์ Portrait Lightning โดยเลือกแสงบนเวที

สรุปผลการทดสอบของ Huawei Y9 Prime 2019

Huawei Y9 Prime 2019 เป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่มาพร้อมฟีเจอร์ไฮเอนด์อย่างหน้าจอ Zero Notch Ultra FullView Display และกล้องหน้าแบบ Pop-Up ซึ่งหายากมากในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน จึงทำให้ Huawei Y9 Prime 2019 มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เมื่อหยิบมาใช้งานจริงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะสร้างความประทับใจทันทีด้วย หน้าจอแสดงผลไร้รู้ ไร้รอยบากขนาดใหญ่ถึง 6.59 นิ้ว ซึ่งใหญ่มากสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางราคาไม่เกินหมื่นบาท อีกทั้งยังมีความละเอียดในระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) จึงตอบโจทย์การดูหนัง และเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

สำหรับการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีสำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 10,000 บาท โดยสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับกลางๆ ได้ดี และเล่นเกมส่วนใหญ่บน Play Store ได้โดยไม่มีอาการกระตุกกวนใจ นอกจากนี้บางเกมอย่าง PUBG Mobile ยังได้เทคโนโลยี GPU Turbo 2.0 มาช่วยเสริมให้การเล่นลื่นไหล และประหยัดแบตเตอรี่ยิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี Huawei Y9 Prime 2019 ใช้ชิปเซ็ต Kirin 710F กับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G51 MP4 ซึ่งมีพลังการประมวลผลอยู่ในระดับกลาง จึงอาจจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงๆ หรือถ้าต้องการเล่นจริงๆ แนะนำว่าควรปรับระดับกราฟิกในเกมให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้เกมลื่นขึ้น และช่วยให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ส่วนฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมอย่าง AppAssistant นั้นสามารถเร่งประสิทธิภาพในการเล่น และปิดกั้นการรบกวนจากสารโทรเข้า หรือแจ้งเตือนต่างๆ ได้ แต่ก็มีลูกเล่นไม่มากนัก อีกทั้งผู้ใช้ยังต้องเข้าไปเปิดเองในการหน้าการตั้งค่า จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าใดนักเมื่อเทียบกับฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ

ในส่วนของการถ่ายภาพของ Huawei Y9 Prime 2019 ถือว่าทำได้ดีพอสมควร โดยมีโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพมุมมองกว้างด้วย เลนส์ Ultra Wide , ระบบ AI วิเคราะห์ภาพถ่ายที่เปิด-ปิดได้, โหมดโปรที่อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่ากล้องได้มากขึ้น, การเพิ่มแสงไฟให้กับตัวแบบด้วยฟีเจอร์ 3D Portrait Lighting , โหมดการถ่ายภาพกลางคืนที่ช่วยให้ภาพสว่างและคมชัดขึ้น ไปจนถึงการเปิดใช้ตาราง 9 ช่อง หรือเส้นสัดส่วนทองเพื่อช่วยในการวางองค์ประกอบภาพ เรียกได้ว่ามีลูกเล่นครบเครื่อง ตอบโจทย์ทั้งตากล้องมือใหม่และมืออาชีพ แต่ยังมีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่เล็กน้อย นั่นคือการที่ไม่สามารถปรับความเบลอฉากหลังในโหมด Portrait ได้ หากต้องการปรับต้องถ่ายด้วยโหมดรูรับแสงเท่านั้น

สำหรับการใช้งานทั่วไปเรียกได้ว่าหายห่วง ด้วยชิปเซ็ต Kirin 710F ความเร็ว 2.2GHz ผสานหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB ทำให้ Huawei Y9 Prime 2019 รองรับการใช้งานได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชียล, ไลฟ์สด, วิดีโอคอล, ท่องเว็บไซต์, จดโน้ต หรืองานเอกสารต่างๆ โดยมีหน่วยความจำภายใน (ROM) มาให้ 128GB จึงสามารถเก็บบันทึกรูปถ่าย และไฟล์ต่างๆได้อย่างเหลือเฟือ หรือถ้ายังไม่พอก็สามารถใส่ microSD เพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 512GB แต่ทั้งนี้ต้องแลกกับการที่ใช้งาน 2 ซิมไม่ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องไปปรับใช้กันตามความเหมาะสม อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควร ทำให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันหากไม่ได้เล่นเกมนานๆ เหมาะสำหรับการดูหนังฆ่าเวลาระหว่างทางกลับบ้าน อาจจะช่วยลดภาระการพกแบตเตอรี่สำรองได้ อย่างไรก็ดี ยังมีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่บ้าง นั่นคือ ตัวเครื่องไม่รองรับการสแกนใบหน้า และไม่ได้มีการไล่เฉดสีบนบอดี้เหมือนสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน จึงอาจจะดูไม่หวือหวาสะดุดตาเท่าใดนัก

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ Huawei Y9 Prime 2019 เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าเป็นสำคัญ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอไร้ขอบไร้รูไร้รอยบากขนาดใหญ่ และกล้องหน้าแบบ Pop-Up ที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน พร้อมทั้งมีกล้องหลัง 3 ตัว, แบตเตอรี่ความจุสูง กับสเปกที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกประเภท เหมาะสำหรับผู้ที่พิจารณาเรื่องความคุ้มค่าในการซื้อสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ด้วยงบประมาณไม่เกิน 10,000 บาทครับ

Huawei Y9 Prime 2019 วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ที่ร้าน Huawei Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคา 7,990 บาท โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black, สีน้ำเงิน Sapphire Blue และสีเขียว Emerald Green ครับ

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Huawei ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Huawei Y9 Prime 2019 มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ด้วยครับ

จุดเด่นของ Huawei Y9 Prime 2019

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 3D Curved กับหน้าจอไร้รอยบาก บนบอดี้สีพื้นแบบทูโทน พร้อมเคลือบผิวมันวาว - ตัวเครื่องขนาด 163.5x77.3x8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196.8 กรัม - หน้าจอแสดงผล LTPS (TFT LCD) แบบ Zero Notch Ultra FullView Display ขนาด 6.59 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดะดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) ที่ไร้รูไร้รอยบาก - ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 710F แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่ มีความเร็ว 2.2 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Mali-G51 MP4 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB - ใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD เพิ่มได้สูงสุดที่ขนาด 512GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย EMUI 9 - กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.8 , กล้องรองเลนส์ Ultra Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4 และเซ็นเซอร์วัดความลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4 พร้อมรองรับระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, ไฟแฟลช LED, ระบบ AI Scene Recognition ที่ช่วยวิเคราะห์ และตกแต่งภาพถ่ายโดยอัตโนมัติ และเอฟเฟกต์แสงสตูดิโอ 3D Portrait Lighting - กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ Pop-Up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมเอฟเฟกต์แสงสตูดิโอ 3D Portrait Lighting - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง - แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh - ฟีเจอร์ AppAssistant สำหรับเร่งประสิทธิภาพการเล่นเกม และบล็อกการแจ้งเตือนขณะเล่น - ฟังก์ชัน Dual Messenger สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย 2 บัญชีในเครื่องเดียว - เทคโนโลยี GPU Turbo 2.0 - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C - รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot - รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 - รองรับการระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS และ GLONASS - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) (Hybrid Slot) - มี 3 สีมาตรฐานให้เลือก ได้แก่ สีดำMidnight Black, สีน้ำเงิน Sapphire Blue และสีเขียว Emerald Green - สเปก และฟีเจอร์ที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ากับราคา 7,990 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Huawei Y9 Prime 2019

- ไม่มีระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charging) - ไม่มีระบบปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า - โหมดถ่ายภาพ Portrait ไม่สามารถปรับระดับการเบลอของฉากหลังเองได้ (ปรับได้เฉพาะโหมดรูรับแสง) - หน้าจออัตราส่วน 19.5:9 ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ - ใช้ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ซึ่งช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ต้องเลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง nanoSIM หรือ microSD Card - บอดี้ไม่ใช่วัสดุโลหะ

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจากศูนย์บริการ คุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองเพื่อความมั่นใจครับ *

Leave a Comment