รีวิว Samsung Galaxy A80 สมาร์ทโฟน 3 กล้องหมุนได้รุ่นแรกของโลก พร้อมจอสวยไร้รอยบาก และสเปกไฮเอนด์สดใหม่:: Thaimobilecenter.com Samsung Galaxy A80

สมาร์ทโฟน 3 กล้องหมุนได้รุ่นแรกของโลก พร้อมจอสวยไร้รอยบาก และสเปกไฮเอนด์สดใหม่ ด้วยกล้อง Rotating Triple Camera 48 ล้านพิกเซล, จอ Infinity Display Super AMOLED 6.7 นิ้ว แบบไร้รูไร้รอยบาก ผสานระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอ, ชิปเซ็ต Snapdragon 730, RAM 8GB+ROM 128GB และแบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 3700 mAh บนตัวเครื่อง Metal Glass สวยพรีเมียมโค้งมน

30 กรกฎาคม 2019 - ปีนี้ Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน A Series ออกมาหลายรุ่นด้วยกัน โดยมีฟีเจอร์ และราคาครอบคลุมตั้งแต่ตลาดระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับบนไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy A30 , A50 หรือ A70 ซึ่งเราก็ได้รีวิวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดก็เพิ่งจะมีรุ่นใหม่ของตระกูล A -Series เปิดตัวออกมาในบ้านเรานั่นคือ Samsung Galaxy A80 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของ A Series ณ ขณะนี้ และแน่นอนว่าเราก็ได้หยิบ Samsung Galaxy A80 มารีวิวให้ชมกันเช่นเคยครับ

Samsung Galaxy A80 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางบนของ Samsung ที่มีแนวคิดการออกแบบที่แปลกใหม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป โดย มี กล้องหลัง 3 ตัวที่สามารถเลื่อนขึ้น และหมุนกลับมาด้านหน้าได้ เป็นครั้งแรกของโลก เรียกว่า Rotating Triple Camera ทำให้ตัวกล้องเป็นได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังในตัว Samsung Galaxy A80 ดังนั้นกล้องหน้าจึงมีคุณภาพสูงเท่ากล้องหลัง และสามารถทำหน้าจอไร้ขอบ 100% ได้โดยไม่ต้องมีรู หรือรอยบากใดๆ บนตัวเครื่องที่ใช้การผสมผสานระหว่างกระจก กับโลหะ แบบ Metal Glass ที่สวยงามโค้งมนพรีเมียม สำหรับความสามารถของตัวกล้องก็นับว่าครบเครื่อง โดยเป็นกล้อง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ประกบด้วยกล้องเลนส์ Ultra Wide 123 องศา ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์วัดระยะความลึก 3D Depth ความละเอียดระดับ HQVGA จึงถ่ายภาพได้สวยงามทั้งในแนวโบเก้ และแนว Landscape ไปจนถึงการถ่ายเซลฟี่แบบเป็นกลุ่มด้วยเลนส์มุมกว้าง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Scene Optimization สำหรับวิเคราะห์ และตกแต่งภาพด้วย AI

นอกจากเรื่องกล้องแล้ว คุณสมบัติของ Samsung Galaxy A80 ก็นับว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยมากับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED New Infinity Display ขนาดใหญ่เต็มตา 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) ในอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9 ซึ่งให้สีสันที่สดใสเป็นพิเศษ และไม่มีรอยบาก หรือรูมากวนใจ ในส่วนของหัวใจการประมวลผล เลือกใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่ปรับจูนมาเพื่อการเล่นเกม โดยมีการ Overclock หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 15% พร้อมด้วยหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ซึ่งถูกครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ One UI ใหม่ล่าสุด จึงรองรับการใช้งานได้ทุกประเภทได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การใช้งานพื้นฐานไปจนถึงการเล่นเกม

จากคุณสมบัติข้างต้น จะเห็นว่า Samsung Galaxy A80 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความโดดเด่นรอบด้าน ทั้งดีไซน์, สเปก และฟีเจอร์ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูการใช้งานจริงใน รีวิว Samsung Galaxy A80 โดย ทีมงาน Thaimobilecenter กันเลยดีกว่าครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy A80 มีดีไซน์ภายนอกที่ต่างจาก Galaxy A Series รุ่นอื่น และสมาร์ทโฟนในท้องตลาดทั่วไป โดยตัวเครื่องด้านหน้าจะมีหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่เรียกว่า Super AMOLED "New Infinity Display" ไร้ขอบ ไร้รอยบาก ขนาด 6.7 นิ้ว ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมด ในอัตราส่วนการแสดงผล 20:9 ซึ่งยาวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในปัจจุบันเล็กน้อย

ตัวเครื่องด้านหลังเป็นสีพื้น ไม่มีการไล่เฉดสี ครอบทับด้วยกระจกเงาวาว บริเวณขอบด้านซ้ายและขวาโค้งมนเพื่อให้รับกับอุ้งมือเวลาจับถือ ด้านบนเป็นโมดูลกล้องหมุน (Rotating Camera) ที่จะสไลด์ขึ้น และหมุนกล้อง 3 ตัวไปอีกด้านเมื่อเปิดโหมดการถ่ายภาพแบบเซลฟี่ ทำให้กล้องหมุนของ Samsung Galaxy A80 เป็นได้ทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้าในตัว จึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งกล้องหน้าแยกต่างหากเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป

เมื่อเปิดใช้งานกล้องในโหมดเซลฟี่ กล้องจะเลื่อนขึ้น และหมุนมาด้านหน้าดังภาพ

กล้องของ Samsung Galaxy A80 ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และกล้องรองเลนส์ Ultra Wide กว้าง 123 องศา ส่วนกล้องตัวที่สาม เป็นเซ็นเซอร์วัดความระยะความลึก 3D Depth ที่ช่วยให้เอฟเฟกต์เบลอฉากหลังในโหมด Portrait สมจริงยิ่งขึ้น และช่วยในการคำนวณมิติของพื้นที่ เมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AR

ลักษณะการเลื่อนของกล้องเมื่อเปิดโหมดเซลฟี่

บอดี้ของ Samsung Galaxy A80 ล้อมด้วยเฟรมโลหะเงาวาว 2 ชิ้นประกบกัน เพื่อให้กล้องสามารถเลื่อขึ้นมาได้ ขอบเครื่องด้านขวามีปุ่ม Power เพียงปุ่มเดียว ส่วนด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง 2 ปุ่ม ซึ่งทำจากโลหะเช่นเดียวกัน

ขอบเครื่องด้านบนเป็นที่อยู่ของไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีช่องใส่ซิมการ์ด, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนหลัก และช่องลำโพงเสียงภายนอก ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ถาดใส่ซิมการ์ดของ Samsung Galaxy A80 เป็นแบบ Dual Slot ที่สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด โดยช่องใส่ซิมการ์ดที่สองจะอยู่อีกด้านหนึ่ง และไม่มีช่องสำหรับใส่การ์ด Micro SD ทำให้ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Samsung Galaxy A80 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI ซึ่งเป็นอินเตอร์เฟซเวอร์ชันล่าสุดที่พัฒนาต่อจาก Samsung Experience เดิม เน้นการออกแบบที่สบายตา และการจัดวางคอนเทนต์ที่ใช้งานสะดวกขึ้น

เมื่อปัดนิ้วจากขอบด้านบนของหน้าจอ ลงมาจะเป็นการเปิด แถบแจ้ง เตือน และเมื่อปัดลงอีกครั้งจะเป็นการขยาย เมนูปุ่มลัด สำหรับ การตั้งค่าที่ใช่บ่อยๆ เช่น เปิด-ปิด WiFi, เปิด-ปิด Bluetooth, หมุนหน้าจออัตโนมัติ, เปิดโหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น

และยังสามารถเพิ่ม หรือลบทางลัดการตั้งค่าในเมนูนี้ได้ด้วย

เมื่อปัดนิ้วตรงกลางหน้าจอหลักหนึ่ง ครั้ง จะเป็นการเปิด ลิ้นชัก แอปพลิเคชันทุกตัวที่ติดตั้งไว้ในเครื่องจะแสดงอยู่ในนี้ทั้งหมด

Samsung Galaxy A80 ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ใช้บ่อยๆ ของ Google มาให้จากโรงงาน เช่น Chrome, Gmail และ Maps ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐานของ Samsung ก็มีเช่นกัน ได้แก่ไฟล์ส่วนตัว สำหรับดู และจัดการข้อมูลภายในเครื่อง และวิทยุและยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีก เช่นเบราว์เซอร์ Samsung Internet แต่ไม่ได้รวมอยู่ในโฟลเดอร์เดียวกัน

เมื่อกดปุ่ม แอปล่าสุด ตรงแถบนำทางด้านล่าง จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดค้างไว้ เราสามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้ด้วยการปัดหน้าต่างแอปนั้นขึ้นด้านบนทีละ ตัว หรือจะกด ปิดทั้งหมด เพื่อปิดทุกแอปทันทีก็ได้

สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทร มีการออกแบบที่เรียบง่าย และสบายตา ทั้งตัวเลข และรายชื่อมีการเว้นช่องไฟในระยะกำลังดี ไม่ดูอึดอัด หรือโล่งเกินไป ช่วยให้มองเห็น และกดได้ง่าย

เมื่อกดค้างที่บนพื้นที่ว่างในหน้าจอหลักสักครู่ จะเข้าสู่การปรับแต่งหน้าจอ ซึ่งสามารถปรับตำแหน่งของไอคอน และเพิ่ม หรือลบวิดเจ็ตต่างๆ บนหน้าจอหลักได้ตามต้องการ

สมาร์ทโฟนของ Samsung ทุกรุ่นจะสามารถเข้าถึงร้านค้า Galaxy Themes ได้ ซึ่งมีภาพพื้นหลัง, ธีม, ไอคอน และรูปแบบ Always-On Display ให้เลือกดาวน์โหลดไปใช้งานมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน โดยมีราคาระบุเอาไว้ในแต่ละรายการอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการลดราคา หรือเปิดให้ดาวน์โหลดกันฟรีๆ ในบางช่วงเวลาอีกด้วย

นอกจากภาพพื้นหลัง และวิดเจ็ตแล้ว ระบบของ Samsung Galaxy A80 ยังอนุญาตให้ผู้ใช้ปรับค่าแสดงผลด้านอื่นๆ ได้ เช่น รูปแบบ และขนาดของตัวอักษร เป็นต้น

ในส่วนการตั้งค่าแบบละเอียดของหน้าจอ จะมีตัวเลือก โหมดกลางคืน ให้ใช้งาน ซึ่งจะเปลี่ยนอินเตอร์เฟซให้เป็นสีดำ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในเวลากลางคืน เราสามารถเลือกเปิดฟังก์ชันนี้ได้ตามต้องการ หรือกำหนดเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติก็ได้

และยังมีตัวเลือกปรับสีสัน รวมถึงโทนสีของการแสดงผลของหน้าจอได้อีกด้วย

แม้กระทั่งปุ่มนำทาง ก็เลือกเปลี่ยนลำดับของปุ่มได้เช่นกัน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นแบบ Gesture ที่ใช้ควบคุมด้วยการปัดนิ้วขึ้นแทนการกดได้

ในการตั้งค่าหน้าจอหลักจะมีตัวเลือก ให้ปรับแต่งค่อนข้างละเอียด โดยสามารถเลือกรูปแบบหน้าจอหลักได้ 2 แบบ คือหน้าจอหลักและหน้าจอแอป (ปัดนิ้วขึ้นเพื่อเรียกดูแอปทั้งหมด) และหน้าจอหลักเท่านั้น (แอปพลิเคชันทั้งหมดจะอยู่บนหน้าจอหลัก ไม่ต้องปัดนิ้วขึ้นเพื่อเรียกดูแอป)

ที่น่าสนใจคือ Samsung Galaxy A80 มีการตั้งค่าสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น และการได้ยินด้วย โดยอยู่ใน การช่วยเหลือการเข้าถึง ซึ่งมีทั้งการปรับสีของหน้าจอให้เหมาะสำหรับผู้ที่ตาบอดสี, ซูมหน้าจอด้วยการแตะ และอ่านข้อความบนหน้าจอให้เราได้

Samsung Galaxy A80 มีฟีเจอร์ Dual Messenger สำหรับเปิดใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดีย 2 บัญชีในเครื่องเดียว โดยบัญชีที่สองจะแยกออกจากบัญชีแรกอย่างเด็ดขาด เสมือนติดตั้งไว้บนสมาร์ทโฟนอีกเครื่องหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแยกบัญชี LINE หรือ Facebook ที่เอาไว้ใช้ในการทำงานออกจากบัญชีส่วนตัว โดยไม่ต้องซื้อสมาร์ทโฟน 2 เครื่องครับ

เราสามารถดู และจัดการไฟล์ในเครื่องได้ผ่านแอปพลิเคชัน ไฟล์ส่วนตัว ซึ่งติดตั้งมาให้จากโรงงาน โดยจะมีการแยกหมวดหมู่ตามประเภทของไฟล์ และแสดงการใช้งานหน่วยความจำภายในให้ทราบ ว่าใช้ไปเท่าไหร่ และเหลืออยู่เท่าไหร่ พร้อมกันนี้ยังแสดงไฟล์ซ้ำ และไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถลบทิ้งเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในเครื่องได้

Samsung Galaxy A80 และสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy รุ่นใหม่ๆ จะมีฟังก์ชัน การ ดูแลอุปกรณ์ ซึ่งจะปรับแต่งการทำงาน, ล้างไฟล์ขยะ, สแกนไวรัส และจัดสรรการใช้แบตเตอรี่ ให้ระบบทำงานรวดเร็วอยู่เสมอ เมื่อเข้ามาในฟังก์ชันนี้ จะมีการสแกนระบบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ สามารถกดปุ่ม "ปรับตอนนี้" เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เป็น 100% ได้ในคลิกเดียว

เมื่อกดเข้ามาในเมนูแบตเตอรี่จะแสดง แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่, อัตราการใช้พลังงานของแต่ละแอปพลิเคชัน และรายละเอียดการใช้งานตั้งแต่การชาร์จครั้งสุดท้าย

ในส่วนของที่เก็บ จะแสดงการใช้งานหน่วยความจำ RAM และ ROM โดยมีการแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของไฟล์ และขนาดบนหน่วยความจำ สามารถกดปุ่ม "ล้าง ตอนนี้" เพื่อลบไฟล์ขยะ หรือเคลียร์ RAM ได้

ในเมนูความปลอดภัยจะเป็นเครื่องมือ สแกนไวรัสและมัลแวร์ ซึ่งใช้เวลาสแกนไม่เกิน 5 นาที

ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย Samsung Galaxy A80 มีชนิดการล็อกหน้าจอให้เลือกใช้ 4 แบบ ได้แก่รูปแบบ (การลากเส้นผ่านจุด), PIN (ใส่รหัสตัวเลข 4 ตัว), รหัสผ่าน, และการสแกนลายนิ้วมือ ไม่มีฟังก์ชันสแกนใบหน้า ซึ่งการเปิดใช้ฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือ จะต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือเสียก่อน โดยระบบจะบังคับให้เราตั้ง PIN ก่อนจึงจะลงทะเบียนลายนิ้วมือได้ ซึ่งใช้เวลาลงทะเบียนไม่นาน และลงทะเบียนได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ

มาดูการใช้งานด้านความบันเทิงกันบ้างครับ เริ่มจากการท่องอินเทอร์เน็ตกันก่อน ซึ่ง Samsung Galaxy A80 มี Samsung Internet เป็นเบราว์เซอร์พื้นฐาน โดยมีความเร็ว และความเสถียรไม่แพ้เบราเซอร์ตัวอื่นๆ สามารถแสดงผลหน้าเว็บได้ครบถ้วน และมีฟังก์ชันหลายอย่างให้เลือกใช้

ในส่วนของการตั้งค่าเบราว์เซอร์ มีตัวเลือกในการแชร์เพจ, บล็อกโฆษณา, ปรับขนาดตัวอักษร, เปิดเว็บไซต์เวอร์ชันเดสก์ท็อป และอื่นๆ ที่น่าสนใจคือมี โหมดความเข้มสูง ให้ใช้ด้วย ซึ่งจะเปลี่ยนสีของหน้าเว็บให้เป็นสีดำ ช่วยลดแสงจ้าจากสีขาว และถนอมสายตาเมื่อใช้งานในเวลากลางคืน

พร้อมกันนี้ Samsung Galaxy A90 ยังมีแอปพลิเคชัน Samsung Max ที่ช่วยประหยัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวขณะใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi ช่วยเสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ประหยัด และรัดกุมยิ่งขึ้นด้วย

สำหรับการฟังเพลง จะใช้แอปพลิเคชันพื้นฐานเป็น Google Music ซึ่งมีฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานครับถ้วน แต่ไม่มีลูกเล่นอะไรมากนัก

ในส่วนของการเล่นวิดีโอ Samsung Galaxy A80 จะใช้แอปพลิเคชันเล่นวิดีโอของ Samsung เอง ซึ่งในแอปมีฟีเจอร์เสริมหลายอย่างทั้งการจับภาพสกรีนช็อต, บันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF, แสดงวิดีโอแบบหน้าต่าง pop-up, ล็อกหน้าจอ และขยายเต็มจอ เป็นต้น

เนื่องจากหน้าจอของ Samsung Galaxy A90 มีอัตราส่วนการแสดงผลอยู่ที่ 20:9 เมื่อเปิดวิดีโอที่เป็นอัตราส่วน 4:3 หรือ 16:9 จะเหลือขอบสีดำที่ด้านซ้ายและขวาเอาไว้ ซึ่งเราสามารถขยายให้เต็มจอได้ 2 แบบ คือยืดภาพให้เต็มพื้นที่ หรือขยายให้เต็มโดยคงอัตราส่วนเดิมไว้

หากเลือกยืดภาพ ภาพจะยืดออกจนปิดขอบดำไว้ทั้งหมด แต่สัดส่วนของภาพจะเพี้ยนไป

หากเลือกขยายภาพ ภาพจะขยายจนปิดส่วนขอบดำทั้งหมด แต่ขอบภาพบางส่วนจะล้นออกไปจากจอ

สำหรับการแสดงผลแบบ pop-up จะเป็นหน้าต่างลอยดังภาพ ซึ่งจะแสดงอยู่เหนือแอปพลิเคชันทุกตัว และเคลื่อนย้ายไปบนจอได้

ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF จะบันทึกได้ยาวสุด 6 วินาที โดยปรับความเร็วในการเคลื่อนไหวได้ที่ 0.5x, 1.0x (ความเร็วปกติ) และ 2.0x และเลือกให้เล่นย้อนกลับ หรือกลับไปกลับมาก็ได้

นอกจากแอปพลิเคชันด้านความบันเทิง ยังมีแอปพลิคชันประเภท Utility ต่างๆ ติดมาในเครื่องด้วย เช่น Samsung Health แอปพลิเคชันสำหรับติดตามกิจกรรมการออกกำลังกาย, การกิน และการนอนหลับ เพื่อให้สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น และตัวแอปยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทวอทช์เพื่อเก็บสถิติเชิงสุขภาพให้ละเอียดยิ่ง ขึ้นได้ด้วย

ตามมาด้วย Samsung Members ที่ช่วยให้เราเข้าถึงบริการหลังการขาย และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก Samsung ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความผิดปกติของสมาร์ทโฟน, การแจ้งปัญหาการใช้งานแบบออนไลน์, ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เทคนิค และสิทธิพิเศษอื่นๆ เป็นต้น

และที่ขาดไม่ได้คือ Galaxy Gift เอกสิทธิ์เฉพาะผู้ใช้สมาร์ทโฟน Samsung ซึ่งรวมโปรโมชัน, ส่วนลด และของฟรีจากร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนม, ,เครื่องดื่ม, ที่พัก, บัตรชมภาพยนตร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์เสริม และอื่นๆ อีกมากมาย

ในส่วนของการเล่นเกมนั้น Samsung Galaxy A80 มีฟีเจอร์ Game Launcher สำหรับสนับสนุนการเล่นเกม โดยจะรวมเกมทั้งหมดในเครื่องมาไว้ในที่เดียวกัน พร้อมทั้งช่วยเร่งประสิทธิภาพการประมวลผล และบล็อคการแจ้งเตือนไม่ให้ขึ้นมากวนเราระหว่างเล่นด้วย นอกจากยังมีตัวเลือกให้ระบบรันเกมอย่างเต็มที่โดยเน้นประสิทธิภาพ, รันเกมแบบเน้นประหยัดพลังงานโดยลดประสิทธิภาพลง หรือรันเกมแบบสมดุล ให้เราเลือกปรับใช้ตามสถานการณ์อีกด้วย

หรือจะตั้งค่าการรันเกมสำหรับเกมใดเกมหนึ่งโดยเฉพาะก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้สามารถกำหนดค่า FPS สูงสุดได้ด้วย

เมื่อเล่นเกมในโหมด Game Launcher จะมีเมนูลัดเพิ่มเข้ามาในแถบนำทาง ซึ่งสามารถเลือกตั้งค่าการบล็อกการแจ้งเตือนต่างๆ และการโทรได้

และยังมีตัวเลือกการแสดงแผงป็อปอัพ ขณะเล่น และการล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อเปิดเกมทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่ง

ในโหมดล็อกหน้าจอ ระบบจะลดความสว่างของหน้าจอ, ล็อกการสัมผัส และลดเฟรมเรตของตัวเกมลง แต่เกมจะยังคงรันต่อไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับการเปิดบอททิ้งไว้ เพราะประหยัดพลังงานกว่าการเปิดเกมไว้ตลอด และช่วยป้องกันการสัมผัสปุ่มต่างๆ โดยไม่ตั้งใจได้

สำหรับการเล่นเกมบน Samsung Galaxy A80 ทางทีมงานได้เลือกเกมมาใช้ทดสอบ 3 เกมด้วยกัน ได้แก่เกมฮิตอย่าง PUBG Mobile , เกมที่มีกราฟิกระดับสูงอย่าง Overhit และเกม 3D เต็มรูปแบบ Alchemia Story โดยใช้เวลาเล่นติดต่อกันประมาณ 2 ชั่วโมง พบว่า Samsung Galaxy A80 รันเกมได้อย่างน่าพอใจ โดยเกม PUBG Mobile สามารถตั้งค่ากราฟิกเป็นระดับสูงได้โดยไม่มีอาการกระตุกให้เห็น ส่วนเกมแนว Open World อย่าง Alchemia Story ที่ เป็นเกมแบบ Open World ที่ต้องโหลดแผนที่ขนาดใหญ่ ก็ปรับกราฟิกจนสุดได้ และมีเฟรมเรตลื่นไหลทุกมุมมองไม่ว่าจะหมุนกล้องไปในทิศทางใด อย่างไรก็ดี สำหรับเกม Overhit ที่ต้องการสเปกสูงมาก ยังไม่สามารถปรับกราฟิกจนสุดได้ และมีเฟรมเรทที่ไม่ลื่นไหลเท่าไรนัก แต่อยู่ในระดับที่พอเล่นได้ โดยรวมแล้วถือว่า Samsung Galaxy A80 เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับเกมส่วนใหญ่บน Play Store ได้สบายๆ โดยมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงครับ

Samsung Galaxy A80 วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้ 206351 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน Geekbench 4 ได้ 2493 คะแนนสำหรับการประมวลผลแกนเดี่ยว (Single-Core) และ 6805 คะแนนสำหรับการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core)

สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 2395 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 2249 คะแนน

Samsung Galaxy A80 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 730G แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.2 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618 , หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Samsung Galaxy A80 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

ระบบ GPS สามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 44 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 4 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา

การใช้งานกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

กล้องถ่ายภาพของ Samsung Galaxy A80 เป็น กล้องแบบ 3 ตัว (Triple Camera) แบบหมุนได้ และเป็นได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังในตัว โดยกล้องตัวหลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่ 2 เป็นกล้องเลนส์ Ultra Wide-Angle มุมกว้าง 123 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และตัวที่ 3 เป็น เซ็นเซอร์วัดความลึก (3D Depth) โดยมีรูรับแสง f/2.0, f/2.2 และ f/1.2 ตามลำดับ มีระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI (Scene Optimization) ซึ่งเลือกเปิด-ปิดได้ตามต้องการ พร้อมโหมดการถ่ายภาพให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น โหมดไลฟ์โฟกัส (หน้าชัดหลังเบลอ), โหมด พาโนราม่า , โหมดโปร และ โหมดกลาง คืน ส่วน เอฟเฟกต์บิวตี้เป็นฟีเจอร์แยกต่างหาก ทำให้เปิดใช้งานในโหมดอื่นๆ ได้ และปรับได้ 3 ระดับ

เมื่อถ่ายรูปวิว ระบบ Scene Optimization จะแนะนำให้เราใช้มุมมองกว้างโดยอัตโนมัติ

ในโหมดโปร สามารถปรับแต่งค่าของตัวกล้องได้ 3 อย่าง ได้แก่ ISO, สมดุลแสงขาว (WB) และการชดเชยแสง (EV)

เมื่อสลับเป็นโหมดเซลฟี จะสามารถถ่ายเซลฟีมุมมองกว้างได้ ซึ่งมีให้เลือก 3 ระยะ ได้แก่ระยะปกติ, ระยะกว้างปานกลาง และระยะกว้างสุด 123 องศา โดยสามารถเปิดใช้เอฟเฟกต์เบลอฉากหลัง (ไลฟ์โฟกัส) พร้อมกับเปิดใช้งานเอฟเฟกต์บิวตี้ไปด้วยได้

ลูกเล่นอีกอย่างหนึ่งของกล้อง Samsung Galaxy A80 คือการสร้างตัวละคร AR Emoji ที่จำลองจากใบหน้าของเราเอง ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา และเสื้อผ้าหน้าผมได้หลายแบบ ซึ่งมีทั้งที่ดาวน์โหลดได้ฟรี และแบบที่ต้องเสียเงิน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Rotating Triple Camera ความละเอียด 48+8 ล้านพิกเซล

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองกว้าง Ultra Wide เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายแบบมาโครด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองกว้าง Ultra Wide เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายแบบมาโครด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 5 มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ มุมมองกว้าง Ultra Wide เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน มุมมองกว้าง Ultra Wide เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 5 มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 4 มุมมองปกติ เปิด Auto HDR และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ ไม่เปิดบิวตี้ และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดบิวตี้ระดับ 3 (สูงสุด) และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 5 ไม่เปิดบิวตี้ และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 5 ไม่เปิดบิวตี้ และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 7 (สูงสุด) ไม่เปิดบิวตี้ และเปิด Scene Optimization

ถ่ายด้วยโหมดไลฟ์โฟกัส ความเบลอระดับ 7 (สูงสุด) ไม่เปิดบิวตี้ และเปิด Scene Optimization

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ จากกล้อง Rotating Triple Camera ความละเอียด 48+8 ล้านพิกเซล

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดบิวตี้ระดับ 3 (สูงสุด) มุมมองปกติ

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดบิวตี้ระดับ 3 (สูงสุด) มุมมองกว้าง

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เปิดบิวตี้ระดับ 3 (สูงสุด) มุมมองกว้างพิเศษ (Ultra Wide)

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A80

แน่นอนว่าจุดเด่นที่ชัดที่สุดของ Samsung Galaxy A80 คือกล้องหมุน (Rotating Camera) ซึ่งไม่เคยปรากฏในสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy มาก่อน โดยตัวกล้องจะเลื่อนขึ้น และหมุนมาด้านหน้าโดยอัตโนมัติเมื่อเราเปิดโหมดเซลฟี่ เท่ากับว่า เราถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้อง 3 ตัว ที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ช่วยให้ภาพเซลฟี่มีความคมชัดสูง และยังใช้ประโยชน์จากเลนส์ Ultra Wide กับ 3D Depth ในการถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง และเซลฟี่แบบเบลอฉากหลังได้ด้วย โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง จะทำให้การเซลฟี่เป็นกลุ่มทำได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถเก็บภาพทุกคนให้อยู่ในเฟรมได้หมดโดยไม่ต้องเบียดกันมาก และไม่ต้องพึ่งไม่เซลฟี่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หายากในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน

สำหรับคุณภาพของรูปถ่ายนั้น ถือว่าน่าประทับใจทั้งสีสัน และความคมชัด และยังมีฟังก์ชันการถ่ายภาพครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโหมด Live Focus (หน้าชัดหลังเบลอ), พาโนราม่า, โหมดโปร, โหมดกลางคืน รวมไปถึงฟีเจอร์เสริมอื่นๆ อีกหลายอย่าง อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะเป็นกล้องตัวเดียวกัน แต่ เมื่อสลับมาเป็นโหมดเซลฟี่ ฟีเจอร์บางอย่างเช่น โหมดกลางคืน และโหมดโปร จะใช้งานไม่ได้ ทำให้ขาดคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่ควรจะมีไป เช่น การถ่ายเซลฟี่ในที่มืดด้วยโหมดกลางคืน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด เพราะปกติเราคงไม่ได้ใช้โหมดเหล่านี้ถ่ายเซลฟี่อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ตัวกล้องของ Samsung Galaxy A80 จะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องพอสมควร ทำให้กระจกสัมผัสกับพื้นผิวโดยตรงเมื่อวางหงาย และอาจเป็นรอยได้ง่าย จึงควรระวังในจุดนี้ขณะใช้งาน

นอกจากเรื่องกล้องแล้ว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Samsung Galaxy A80 คือหน้าจอ Super AMOLED New Infinity Display ที่ทั้งไร้ขอบ, ไม่มีรอยบาก และไม่รูมารบกวนสายตา อีกทั้งยังกว้างถึง 6.7 นิ้ว ทำให้ เหมาะกับการรับชมภาพยนตร์ หรือดูซีรีส์อย่างมาก ซึ่งนอกจากจะรับชมได้แบบเต็มตาแล้ว ยังให้ภาพที่มีสีสันสดใสตามคุณสมบัติของจอ Super AMOLED อีกด้วย

ด้านการเล่นเกม Samsung Galaxy A80 สอบผ่านแบบสบายๆ ด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 730G ที่ได้รับการ Overclock หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 616 ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีก 15% จึง เล่นเกมส่วนใหญ่บน Play Store แบบปรับกราฟิกสูงสุดได้อย่างราบรื่น เว้นแต่บางเกมที่ต้องการสเปกสูงมากๆ เท่านั้นที่อาจจะปรับกราฟิกสูงสุดไม่ได้ หรือถ้าได้ก็อาจจะไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ด้วยความที่เป็นจอไร้ขอบแบบหมดจด ทำให้วางมือค่อนข้างลำบาก และอาจจะเผลอไปกดโดนหน้าจอโดยไม่ตั้งใจได้

ในแง่ของการใช้งานทั่วไป Samsung Galaxy A80 มีคุณสมบัติที่พร้อมรองรับการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะนอกจากชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 730G แล้ว ก็ยังมีหน่วยความจำ (RAM) มากถึง 8 GB ซึ่งนับว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน ส่วนหน่วยความจำ ROM ก็มีมาให้ถึง 128 GB จึงสามารถเก็บเพลง, ภาพถ่าย, แอปพลิเคชัน และเกมได้อย่างจุใจ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์อย่างการสแกนนิ้วใต้หน้าจอ อย่างไรก็ดี ยังคงมีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่บ้าง นั่นคือตัวเครื่องไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือแบบอื่นๆ เพื่อเพิ่มหน่วยความจำได้ และไม่มีฟังก์ชันสแกนใบหน้าให้ใช้งาน ส่วนแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy A80 มีความจุอยู่ที่ 3,700 mAh ซึ่งดูแล้วก็ถือว่ามากพอสมควร แต่จากการใช้งานจริง พบว่าแบตเตอรี่หมดค่อนข้างไว แต่ก็มีเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง 25W Super Fast Charging มาช่วยลดเวลาในการชาร์จ มาช่วยทดแทนในส่วนนี้ได้บ้าง

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ สามารถกล่าวได้ว่า Samsung Galaxy A80 เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปสวยในทุกสถานการณ์ และมีหน้าจอขนาดใหญ่ไร้ขอบที่เหมาะกับการดูภาพยนตร์ พร้อมด้วยสเปกที่สูงใกล้เคียงเรือธง ทำให้รองรับการใช้งานทุกด้านได้อย่างสบาย และเล่นเกมได้แบบไม่ติดขัด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป, ดีไซน์ล้ำสมัย และต้องการประสบการณ์การใช้งานแบบไฮเอนด์ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปครับ

Samsung Galaxy A80 วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ที่ร้าน Samsung Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคา 21,990 บาท โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีทอง และสีเงิน พร้อมโปรโมชั่นเลือกรับของพรีเมียมมูลค่า 3,990 บาท ระหว่างวันที่ 18-31 กรกฎาคม 2019 รวมทั้งสามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 24 เดือน, ฟรีประกันจอแตก 1 ปี และรับส่วนลดสูงสุด 60%

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy A80 มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ด้วยครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy A80

- ดีไซน์แบบไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม พร้อมเทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ด้วยกรอบโลหะอะลูมิเนียม ผสานกระจกขอบโค้งที่ด้านหลัง พร้อมความโค้งมนรับกับฝ่ามือแบบ 3D Curved - ตัวเครื่องขนาด 165.2x76.5x9.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 220 กรัม - หน้าจอแสดงผล Super AMOLED New Infinity Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) ในอัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 20:9 - ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 730G ความเร็ว 2.2 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย One UI - กล้องดิจิทัล 3 ตัวแบบหมุนได้ (Rotating Triple Camera) ความละเอียด 48+8 ล้านพิกเซล + กล้อง 3D Depth โดยกล้องตัวที่สองเป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra Wide-Angle 123 องศา พร้อมระบบ Scene Optimizer ช่วยวิเคราะห์ และตกแต่งภาพถ่ายด้วย AI และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K (30fps) - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอของตัวเครื่อง (On-Screen Fingerprint) - ฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า - แบตเตอรี่ความจุ 3,700 mAh พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง 25W Super Fast Charging - ฟีเจอร์ Game Launcher ที่สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่างๆ รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอขณะเล่นเกมได้ - ฟังก์ชัน Dual Messenger, Game Launcher, Samsung Pass - แอปพลิเคชัน Secure Folder สำหรับเก็บข้อมูลส่วนตัวไว้ในที่ปลอดภัย - ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C - รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) และ VHT80 MIMO - รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 (LE up to 2Mbps), ANT+ และ NFC - รองรับการระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม GPS, Glonass, Beidou, Galileo - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) - รองรับการสแตนด์บายแบบ Dual 4G LTE - มี 3 สีมาตรฐานให้เลือก (ดำ-Black, สีทอง-Gold, และสีเงิน-Silver)

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A80

- ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่น และค่อนข้างหนา - หน้าจออัตราส่วน 20:9 ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ - ส่วนของกล้องถ่ายมีลักษณะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง จึงมีโอกาสที่จะสัมผัสกับพื้นผิวโดยตรงเมื่อวาง และอาจเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย - กล้องถ่ายภาพไม่มีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS - ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำเสริมด้วยการ์ด microSD หรือแบบอื่นๆ - ไม่มีระบบปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจากศูนย์บริการ คุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองเพื่อความมั่นใจครับ *

Leave a Comment