รีวิว Samsung Galaxy J4+ สมาร์ทโฟนจอใหญ่ ในราคาเล็กๆ พร้อมสเปกกำลังดี และระบบเสียง Dolby Atmos บนตัวเครื่อง Glossy Cover สวยเงางาม:: Thaimobilecenter.com

รีวิว Samsung Galaxy J4+ สมาร์ทโฟนจอใหญ่ ในราคาเล็กๆ พร้อมสเปกกำลังดี ด้วยจอ Infinity Display ใหญ่เต็มตา 6.0 นิ้ว, ระบบเสียง Dolby Atmos, ชิปเซ็ต Snapdragon 425, กล้อง 13 ล้านพิกเซล, ระบบสแกนใบหน้า และแบตเตอรี่ 3300 mAh บนตัวเครื่อง Glossy Cover สวยเงางาม ในราคาน่ารักเพียง 4,690 บาท

10 ตุลาคม 2018 - สวัสดีครับ กลับมาพบกับรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดโดยทีมงาน Thaimobilcenter กันอีกเช่นเคย แม้ว่าจะใกล้ช่วงสิ้นปีแล้ว แต่ก็ยังมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Samsung ที่เริ่มส่งสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น และระดับกลางออกมาตีตลาดแบบถี่ยิบ ซึ่งหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่เพิ่งเปิดตัวออกมาสดๆ ร้อนๆ ก็คือ SamsungGalaxy J4+ ที่เรากำลังจะนำมารีวิวให้ชมูกันในครั้งนี้นั่นเองครับ

Samsung Galaxy J4+ เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดจาก Galaxy J4 ที่เปิดตัวออกมาช่วงกลางปี โดยมีความเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหลายๆ ด้าน และมีราคาเปิดตัวที่ถูกลงเหลือเพียง 4,690 บาท (Galaxy J4 เปิดตัวที่ 5,490 บาท) จุดเด่นของ Samsung Galaxy J4+ คือ หน้าจอแสดงผลในอัตราส่วนแบบ 18.5:9 ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว พร้อมด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos สำหรับการใช้งานร่วมกับหูฟัง หรือลำโพงบลูทูธ ซึ่งช่วยยกระดับการดูหนังฟังเพลงให้มีอรรถรสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่สามารถ ถ่ายเซลฟีแบบหน้าชัดหลังเบลอ ได้อีกด้วย

ในส่วนของสเปกด้านอื่นๆ ก็ถือว่าครบถ้วนสมราคาด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 425 จับคู่มากับหน่วยความจำ RAM 2GB และ ROM 16GB โดยสามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมด้วยการ์ด microSD ได้สูงสุด 512GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด , มีระบบปลดล็อกตัวเครื่องด้วย การสแกนใบหน้า , แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการที่สดใหม่ Android 8.1.0 Oreo

จากคุณสมบัติเบื้องต้นที่กล่าวมา เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงจะเริ่มสนใจสมาร์ทโฟน "จอใหญ่ ราคาน่ารัก" รุ่นนี้กันแล้ว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชม รีวิว Samsung Galaxy J4+ กันเลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy J4+ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ความละเอียดระดับ HD+ (1480 x 720 พิกเซล) ขนาด 6.0 นิ้ว ในอัตราส่วนแบบ 18.5:9 โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 161.4x 76.9x7.9 มิลลิเมตร หนัก 178 กรัม ซึ่งจัดว่ากำลังเหมาะมือ ส่วนด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นดีไซน์ขอบบางแบบ Infinity Display ซึ่งไม่มีปุ่มโฮมด้านล่าง

ขอบเครื่องด้านบนเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 , ไฟแฟลช LED, เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง (Proximity Sensor) สำหรับฟังก์ชันปิดหน้าจออัตโนมัติเมื่อแนบกับใบหน้า และเซ็นเซอร์วัดความเอียง (Accelerometer Sensor) สำหรับการเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลเป็นแนวตั้งและแนวนอนโดยอัตโนมัติตามลักษณะการจับถือ

เนื่องจากเป็นดีไซน์ Infinity Display ขอบเครื่องด้านล่างจึงไม่มีปุ่มกดใดๆ โดยปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม Recent Apps จะเป็นปุ่ม On-Screen ทั้งหมด

ด้านขวาของตัวเครื่องมี ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง และล็อกหน้าจอ และลำโพงเสียงภายนอก

ส่วนด้านซ้ายมี ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง โดยช่องเล็กจะเป็นช่องสำหรับใส่ nanoSIM อย่างเดียว ส่วนช่องใหญ่จะใส่ได้ทั้ง nanoSIM และการ์ด microSD ทำให้ Samsung Galaxy J4+ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกับติดตั้งการ์ด microSD ไปพร้อมกันได้

ด้านบนของตัวเครื่องเป็นเฟรมโลหะเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดหรือพอร์ตการเชื่อมต่อใดๆ

ตัวเครื่องด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่และการโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์, ไมโครโฟน และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.

เมื่อพลิกตัวเครื่องมาด้านหลัง จะเห็นกล้องดิจิทัลพร้อมไฟแฟลช LED ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 ฝาหลังเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนตที่มีพื้นผิวแบบเงางามแบบ Glossy Cover ให้ความรู้สึกหรูหราต่างจากสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy รุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งมักจะมีฝาหลังแบบโลหะขัด หรือโพลีคาร์บอเนตอย่างเดียว ทั้งนี้ Samsung Galaxy J4+ จะไม่สามารถแกะฝาหลังออกได้ เหมือนรุ่นที่แล้ว

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Samsung Galaxy J4+ มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Oreo ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ Samsung Experience 9.5 รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ รวมถึงรองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE

สำหรับสเปกภายใน Samsung Galaxy J4+ มาพร้อมกับชิปเซ็ต Quad-Core Qualcomm Snapdragon 425 ความเร็ว 1.4GHz, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายใน (ROm) ขนาด 16 GB

เมื่อปัดนิ้วจากขอบจอด้านบนลงมา 1 ครั้ง จะเป็นการเปิด Notification Center ที่รวมการแจ้งเตือนต่างๆ เอาไว้ หากลากนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการเปิดแผงทางลัดการตั้งค่า ซึ่งรวบรวมฟังกันที่ใช้บ่อยเอาไว้ เช่นการเปิด-ปิด WiFi, ปรับระดับเสียง, ปรับความสว่างหน้าจอ และอื่นๆ ซึ่งเราสามารถเพิ่มหรือลบทางลัดออกได้ตามต้องการ

Samsung Galaxy J4+ มีการติดตั้งแอปพลิเคชันพื้นฐานของทาง Samsung มาให้จากโรงงาน ได้แก่ แอปพลิเคชันบันทึกเสียง , อีเมล , ไฟล์ส่วนตัว สำหรับจัดการไฟล์ในเครื่อง, เบราเซอร์พื้นฐาน สำหรับท่องเว็บ, Samsung Health สำหรับติดตามข้อมูลทางสุขภาพ, Galaxy Apps ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสโตร์ของทาง Samsung และ Smart Tutor ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับติดต่อศูนย์บริการSamsung เพื่อสอบถามปัญหาการใช้งาน หรือให้ช่างเทคนิคควบคุมเครื่องของเราจากระยะไกลเพื่อแก้ไขปัญหาได้ โดยไม่ต้องนำเครื่องเข้าศูนย์

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งแอปพลิเคชันของ Google มาให้อย่างครบครัน พร้อมด้วยแอปพลิเคชันตระกูล Office ของ Microsoft ไม่ต้องหาโหลดให้เสียเวลา

นอกจากนี้ Samsung Galaxy J4+ ยังมีแอปพลิเคชัน BNK48 และ Lazada ติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรกด้วย

สำหรับแอปพลิเคชัน BNK48 นั้น เมื่อเปิดดูจะพบว่ามีภาพวอลเปเปอร์ฟรี 2 แบบ และเสียงเรียกเข้า (Voice Calling) 1 แบบแถมมาให้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูในแท็บร้านค้า พบว่าไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากอุปกรณ์ไม่รองรับ เป็นไปได้ว่า Samsung Galaxy J4+ จะมีข้อจำกัดในการเข้าถึงคอนเทนต์ BNK48 เพราะไม่ใช่รุ่น exclusive เหมือน Samsung Galaxy J8

ทั้งนี้ วอลเปเปอร์ และเสียงเรียกเข้าในแอปพลิเคชัน BNK48 จะถูกปกป้องด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย Samsung Knox ทำให้ไม่สามารถค้นหา หรือคัดลอกออกจากเครื่องได ้ และการเปลี่ยนวอลเปเปอร์และเสียงเรียกเข้าจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชัน BNK48 เท่านั้น

ฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทรมีอินเทอร์เฟซที่สะอาดเรียบง่าย มองเห็นตัวเลขชัดเจน ปุ่มมีขนาดใหญ่และกดได้สะดวก สามารถเข้าถึงการเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ หรืออัพเดทรายชื่อเดิมได้ทันที สำหรับหน้าบันทึกการโทรจะแบ่งเป็นรายการโดทรล่าสุดตามลำดับ และรายชื่อที่บันทึกไว้ซึ่งจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ ตามลำดับอักษร

เมื่อกดค้างบนพื้นที่ว่างของหน้าจอเริ่มต้น จะเข้าสู่โหมดปรับแต่ง สามารถเพิ่ม, ลบ หรือย้ายไอคอนแอป และวิดเจ็ตต่างๆ ได้

สำหรับสมาร์ทโฟนตระกูล Samsung Galaxy นั้น จะสามารถเข้าถึง ร้านค้าธีม, วอลเปเปอร์ และ ร้านค้าไอคอน ของ Samsung ได้ ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกและมีการอัปเดตอยู่ตลอด มีทั้งแบบที่โหลดไปใช้ได้ฟรี และแบบที่ต้องเสียเงินซื้อ ซึ่งมีราคาระบุไว้ชัดเจนทุกรายการ ส่วนวิตเจ็ตต่างๆ จะมีมาให้ในตัวเครื่องอยู่แล้ว สามารถเลือกใช้งานได้ตามสะดวก

ทั้งนี้ Samsung Galaxy J4+ จะ ไม่มีร้านค้า Always On Display เพราะตัวเครื่องไม่มีฟีเจอร์นี้ให้ใช้งาน

Samsung Galaxy J4+ มีฟังก์ชัน Multi Window ที่สามารถเปิดแอปพลิเคชันพร้อมกันได้ 2 หน้าจอ ทั้งในมุมมองแนวตั้ง และแนวนอน ช่วยให้เราไม่ต้องสลับหน้าจอไปมาเมื่อต้องทำงานกับแอปพลิเคชันหลายๆ ตัว สามารถเปิดใช้ฟังก์ชันนี้โดย กดปุ่ม Recent Apps 1 ครั้ง และกดที่สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมซ้อนกันบนแถบของแอปการ์ด ครับ

ในส่วนของการท่องอินเทอร์เน็ตนั้น Samsung Galaxy J4+ มีทั้งเบราเซอร์พื้นฐานของ Samsung และเบราว์เซอร์ Chrome ติดตั้งมาให้ ซึ่งทำงานได้ดีไม่แพ้กัน สามารถเลือกใช้กันได้ตามชอบ และแน่นอนว่าเราสามารถดาวน์โหลดเบราว์เซอร์อื่นๆ จากใน Play Store มาใช้ได้เช่นกัน

สมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy ในปัจจุบัน รวมถึง Samsung Galaxy J4+ จะมีฟังก์ชัน การบำรุงรักษาอุปกรณ์ หรือ Smart Manager ที่ช่วยให้เราปรับแต่งการใช้งานแบตเตอรี่ของแอปพลิเคชันต่างๆ, ล้างไฟล์ขยะในหน่วยความจำ และอื่นๆ เพื่อให้สมาร์ทโฟนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ

เราสามารถเลือกหยุดการทำงานของแอปพลิเคชันพื้นหลังทั้งหมด หรือ เปลี่ยนเป็นโหมดประหยัดพลังงาน เพื่อยืดระยะเวลาที่เหลืออยู่ของแบตเตอรี่ และยังสามารถ ลบไฟล์ขยะ เพื่อคืนพื้นที่ให้กับหน่วยความจำได้

นอกจากนี้ยังสามารถ เคลียร์ RAM และ สแกนไวรัส ได้อีกด้วย นับว่าเป็นฟังก์ชันการบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่ครบถ้วน และใช้งานง่ายครับ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Samsung Galaxy J4+ คือฟังก์ชัน Dual Messenger ที่ทำให้เราโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Line, Facebook และ Skype ได้และ ล็อกอินเข้าใช้งานได้พร้อมกัน 2 บัญชีในเครื่องเดียว

สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy รุ่นใหม่ๆ จะมาพร้อมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ซึ่งในรุ่น Galaxy J4+ นี้ก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถเข้าสู่หน้า Bixby Home ได้ด้วยการปัดจอไปทางขวาเมื่ออยู่ที่หน้าเริ่มต้น จะพบกับหน้า Dashboard ที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างที่เราทำเป็นประจำ รวมถึงกิจกรรมที่หน้าสนใจมารวมไว้ในหน้าเดียวกัน

อีกแอปพลิเคชันหนึ่งที่ติดตั้งมากับ Samsung Galaxy J4+ ตั้งแต่แรกคือ Samsung Max ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันใหม่ สำหรับ บีบอัดข้อมูลในการใช้อินเทอร์เน็ตให้มีขนาดเล็กลง ช่วยให้หน้าเว็บโหลดไวขึ้น และใช้ Data อินเทอร์เน็ตน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้แพ็คเกจโทรศัพท์ที่มีเน็ต 4G แบบจำกัด นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน ปกป้องความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะเข้ารหัสข้อมูลเมื่อส่งผ่านเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย พร้อมปิดกั้นการติดตาม(Tracker) จากเว็บไซต์หรือบรอการต่างๆ และยังมี DNS Masking ที่ช่วยให้การเข้าถึงเว็บมีความปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย

และอีกหนึ่งแอปพลิเคชันใหม่ที่มากับ Samsung Galaxy J4+ ก็คือ Samsung Members ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่มาแทน My Samsung โดยเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้รับบริการต่างๆ เช่น รับข่าวสารล่าสุด, บริการความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง, เทคนิคการใช้งาน, การตรวจสอบหาปัญหาและให้คำปรึกษา และรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของ Samsung ผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ เป็นต้น

แอปพลิเคชัน Samsung Members มีฟังก์ชันทดสอบฮาร์ดแวร์ เพื่อตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่างๆ ของสมาร์ทโฟนทำงานเป็นปกติหรือไม่ ซึ่งผู้ใช้สามารถทำการทดสอบเองได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อศูนย์บริการ

หากตรวจพบความผิดปกติของฮาร์ดแวร์ สามารถขอรับการช่วยเหลือทางไกล (Remote Access) จากช่างเทคนิคของศูนย์บริการ Samsung หรือค้นหาศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดได้ โดยจะปักหมุดไว้บน Google Maps พร้อมทั้งเบอร์โทรติดต่อ และเวลาทำการเอาไว้ให้เสร็จสรรพ นับว่าเป็นบริการที่สะดวกมากทีเดียวครับ

*ทั้งนี้ ความผิดปกติของฮาร์ดแวร์ที่เห็นในภาพ Screenshot ข้างต้น เป็นเพียงการทดสอบเพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่มีความผิดปกติของฮาร์ดแวร์จริงๆ แต่อย่างใด*

ในส่วนของภาพถ่าย และวิดีโอที่เราถ่ายไว้ เราสามารถเข้าไปดูได้ที่ แกลเลอรี (Gallery) โดยสามารถเลือกให้แสดงได้ 4 แบบ คือ แสดงภาพถ่ายทั้งหมด, แสดงแบบแยกอัลบั้ม, แสดงแบบรวมภาพที่ถ่ายในวันนั้นๆ และ แสดงภาพที่เราเคยแชร์กับทีวี หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung อื่นๆ

Samsung Galaxy J4+ ไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับเล่นเพลงพื้นฐานมาให้ แต่ก็เปิดเพลงได้โดยเข้าไปที่ ไฟล์ส่วนตัว > เสียง และเลือกเพลงที่ต้องการจะเล่น หากต้องการฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเติม เช่น Equalizer หรือการปรับแต่งอื่นๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมจาก Play Store ได้

ส่วนไฟล์วิดีโอ Samsung Galaxy J4+ มีแอปพลิเคชันพื้นฐานมาให้อยู่แล้ว ซึ่งก็มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน โดย มีทางลัดสำหรับฟังก์ชันที่ใช้บ่อยๆ เช่น บันทึกภาพหน้าจอ และ ปรับอัตราส่วนการแสดงผล ในโหมด Full Screen เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นในการเลือกตัดบางส่วนของคลิปวิดีโอมาทำเป็น ภาพเคลื่อนไหวตระกูล GIF ได้

ตัวอย่างภาพ GIF ที่สร้างจากแอปพลิเคชันเล่นวิดีโอของ Samsung

ที่น่าสนใจคือ เราสามารถเลือกให้ แสดงวิดีโอเป็นหน้าต่าง Pop-Up เล็กๆ  บนหน้าจอได้ด้วย

สำหรับโหมด Full Screen หากคอนเทนต์ไม่ได้อยู่ในอัตราส่วน 18:9 ภาพจะแสดงผลออกมาไม่เต็มจอ โดยจะเหลือขอบดำข้างๆ เอาไว้ ตามที่เห็นด้านบน

แต่ถ้าเราไม่ชอบขอบดำๆ เราสามารถเลือกให้ภาพยืดออกด้านข้างจนเต็มจอได้ แต่สัดส่วนของภาพก็จะผิดเพี้ยนไปบ้าง

หรือจะขยายภาพให้เต็มจอแบบไม่ผิดสัดส่วนก็ได้เช่นกัน แต่ภาพจะถูกตัดขอบบน และขอบล่างออกไปเล็กน้อย

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Samsung Galaxy J4+ ที่จะช่วยเสริมประสบการณ์ด้านความบันเทิงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น คือ ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos สำหรับหูฟัง หรือลำโพงบลูทูธ ซึ่งจะทำให้เสียงที่ออกมามีมิติ และสมจริงยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มอรรถรสทั้งการดูฟนัง ฟังเพลง และการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยนั้น Samsung Galaxy J4+ มีระบบการตั้งรหัสผ่าน, รูปแบบการลากเส้น และการตั้ง PIN ตามมาตรฐาน พร้อมทั้งมี ระบบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของสมาร์ทโฟน Samsung คือแอปพลิเคชัน Secure Folder ซึ่งเปรียบเสมือนตู้เซฟสำหรับเก็บไฟล์สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ เอกสาร หรือไฟล์ใดๆ ก็ตาม ไฟล์ทุกอย่างที่ถูกย้ายเข้าไปยัง Secure Folder จะถูกล็อกด้วยรหัสผ่านที่เราตั้งขึ้น และจะแยกเป็นอิสระจากไฟล์ทั่วไป ไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชัน และไม่แสดงเมื่อดูด้วยคอมพิวเตอร์ จะเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชัน Secure Folder และใส่รหัสผ่านที่ถูกต้องเท่านั้น นับว่าเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ทำงานกับเอกสารสำคัญๆครับ

มาดูที่ประสิทธิภาพการเล่นเกมกันบ้างครับ Samsung Galaxy J4+ เป็นสมาร์ทโฟนระดับ entry level ที่มีสเปกไม่สูงนัก แต่ก็ยัง รองรับเกมกราฟิก 3D  ทั่วๆ ไปได ้ ส่วนเกมดังอย่าง RoV นั้นสามารถเล่นได้ลื่นๆ ที่ FPS ประมาณ 30 อาจจะมีอาการกระตุกบ้างระหว่างโหลดตัวเกม แต่โดยรวมแล้วยังพอจะตอบโจทย์การเล่นเกมแบบไม่ซีเรียสได้ครับ

ปิดท้ายกันด้วยผล Benchmark จาก AnTuTu และ Geekbench 4 โดย Samsung Galaxy J4+ สามารถทำคะแนนบนแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้ 41403 คะแนน และ Geekbench 4 ทำคะแนน Single-Core ได้ 645 คะแนน และ Multi-Core ได้ 1459  คะแนน

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

แอปพลิเคชันกล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy J4+ มีหน้าตาอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกหลายแบบ แต่ไม่เยอะเท่ากับสมาร์ทโฟน Galaxy ระดับกลาง หรือรุ่นเรือธง โดยมี โหมดอัตโนมัติ, สติกเกอร์, ความงาม (โหมด Beauty) , โหมดโปร , ถ่ายต่อเนื่อง และ พาโนรามา เราสามารถเปิด-ปิดไฟแฟลช และเข้าสู่เมนูแต่งรูปได้ที่ไอคอนด้านล่าง นอกจากนี้ยังสามารถขยายภาพถ่ายให้เต็มจอในอัตราส่วน18.5:9 ได้

สำหรับกล้องหน้านั้นจะมีโหมดการถ่ายภาพให้ใช้งานน้อยกว่ากล้องหลัง โดยจะมี โหมดเซลฟี่ปกติ, โฟกัสเซลฟี่สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, ลูกเล่นสติกเกอร์ และ การถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง สำหรับการถ่ายเซลฟีเป็นกลุ่ม นอกจากนี้ยังสามารถเปิดฟังก์ชัน Beauty ที่ช่วยให้ใบหน้าของเราสวยหล่อเรียบเนียนได้

ในหน้าการตั้งค่ากล้องหลัง สามารถปรับขนาดและความละเอียดของรูปถ่ายหลายขนาด และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด FHD (1080p) มีฟังก์ชันการตั้งเวลาถ่ายภาพ, แสดงจุดตัดเก้าช่อง, ตั้งค่าการถ่ายภาพด้วยท่าทาง และอื่นๆ

ในส่วนของการตั้งค่ากล้องหน้าจะค่อนข้างจำกัดกว่ากล้องหลัง โดยสามารถปรับขนาดรูปภาพได้ 4 ขนาด และถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) และการตั้งค่าอื่นๆ ทั่วไป

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางแจ้ง โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางแจ้ง โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางแจ้ง โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติในที่แสงน้อย โดย ไม่เปิด HDR

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติในที่แสงน้อย แล ะเปิด Auto HDR

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางแจ้ง โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ ใน โหมดอัตโนมัติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน Beauty

ตัวอย่างภาพถ่ายใน โหมดโฟกัสเซลฟี่ พร้อมเปิดฟังก์ชัน Beauty

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟีพร้อมกับลูกเล่นสติกเกอร์

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy J4+

Samsung Galaxy J4+ เป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวมาพร้อมกับสโลแกน "จอใหญ่ ราคาน่ารัก" ดังนั้นจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จึงอยู่ที่ ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6 นิ้ว และมีราคาเปิดตัวเบาๆ เพียง 4,690 บาท เท่านั้น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงทั่วๆ ไป เช่นการดูหนัง, ฟังเพลง, เล่น LINE หรือ Facebook เป็นต้น โดยมีสเปกที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Snapdragon425, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB , หน่วยความจำ ROM ขนาด 16 GB ไปจนถึงแบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh แต่ทั้งนี้ Samsung Galaxy J4+ อาจจะไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกม เพราะถึงแม้ จะรองรับเกมที่มีกราฟิก 3 มิติได้บ้าง แต่ด้วยหน่วยความจำภายในที่มีเพียง 16GB ทำให้มีพื้นที่ให้ติดตั้งเกมน้อย และอาจไม่พอต่อการใช้งาน

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Samsung Galaxy J4+ คือกล้องดิจิทัลด้านหลังที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กับขนาดรูรับแสง f/1.9 ซึ่งถ่ายภาพออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกัน โดยสามารถเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างครบถ้วน และมีสีสันที่ใกล้เคียงกับสีของวัตถุจริง นอกจากนี้กล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ยัง รองรับการถ่ายเซลฟีแบบหน้าชัดหลังเบลอ ได้ พร้อมฟีเจอร์หน้าสวยที่ปรับได้สูงสุด 8 ระดับ และยังมีลูกเล่นสติกเกอร์น่ารักๆมาเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายภาพอีกด้วย อย่างไรก็ตาม Samsung Galaxy J4+ อาจไม่เหมาะกับการถ่ายภาพภายใต้สภาวะแสงน้อย เนื่องจากไม่มีระบบกันสั่น รายละเอียดของภาพจึงไม่ค่อยคม และยังมี Noise ค่อนข้างมาก

ในด้านของระบบรักษาความปลอดภัย Samsung Galaxy J4+ แม้จะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แต่ มีระบบสแกนใบหน้ามาทดแทน ซึ่งสะดวกไม่แพ้กัน ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ โฟลเดอร์ที่ปลอดภัย หรือ Secure Folder ที่เปรียบเสมือนตู้เซฟสำหรับเก็บไฟล์สำคัญ ซึ่งไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์นี้จะถูกปกป้องด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัส Samsung Knox และถูกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด การจะเข้าถึงไฟล์เหล่านี้ได้จะต้องใช้รหัสผ่าน หรือการยืนยันตัวตนด้วยระบบชีวมาตรเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับเอกสารสำคัญๆ อยู่เป็นประจำครับ

โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy J4+ เป็นสมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิงที่ได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนให้มีหน้าจอใหญ่ขึ้น และมีบอดี้ที่สวยงามยิ่งขึ้น พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานครบครัน รวมถึงระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Dolby Atmos จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวัน และเน้นดูหนัง-ฟังเพลงเป็นหลัก ในงบประมาณไม่เกิน 5,000 บาทครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy J4+

- ตัวเครื่องด้านหลังเป็นแบบ Glossy Cover ที่มีความเงางามมันวาวคล้ายกระจก พร้อมความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร จึงให้ความรู้สึกหรูหราคล้ายสมาร์ทโฟนระดับเรือธง - หน้าจอแสดงผลแบบ Infinity Display (TFT) ขนาด 6.0 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (720x1480 พิกเซล) บนอัตราส่วนแบบ 18.5:9 ซึ่งเหมาะสำหรับการดูหนัง หรือคลิปต่างๆ บน YouTube - ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition) - ชิปเซ็ต Quad-Core Qualcomm Snapdragon 425 ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz - ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 8.1.0 Oreo - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 512 GB - กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (30 fps) - กล้องดิจิทัลด้านหลังมีโหมดโปรให้ใช้งาน และถ่ายภาพในสภาพที่มีแสงพอเหมาะได้ดี - กล้องดิจิทัลด้าหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 และไฟแฟลช LED - โหมดหน้าสวย (Beauty) ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง - มีเอฟเฟกต์เสียงรอบทิศทางแบบ Dolby Atmos เมื่อใช้ร่วมกับหูฟัง หรือลำโพงบลูทูธ - แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh - รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE และ Wi-Fi 802.11 b/g/n - รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM : nanoSIM) - รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกับ microSD card ได้ โดยไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง - รองรับระบบดาวเทียมนำร่อง GPS, Glonass และ Beidou - รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายแบบ Bluetooth 4.2 - รองรับการเชื่อมต่อแบบ microUSB (USB 2.0) - สิทธิพิเศษในการใช้บริการ Samsung Galaxy Gifts เพื่อซื้อสินค้าหลากหลายในราคาพิเศษ - เล่น LINE, Facebook และแอปพลิเคชันโซเชียลอื่นๆ ได้ 2 บัญชีพร้อมกันผ่านฟีเจอร์ Dual Messenger - ล็อกไฟล์ส่วนตัว และแอปพลิเคชันไม่ให้คนนอกเข้าถึงได้ผ่าน Secure Folder - มีราคาที่ย่อมเยาเพียง 4,690 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy J4+

- หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ TFT ต่างจากสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy อีกหลายรุ่นที่ใช้จอแบบ Super AMOLED - มีหน่วยความจำภายใน (ROM) และแรม (RAM) ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนบางรุ่นในระดับราคาเดียวกัน - ไม่มีฟีเจอร์ Always On Display - ไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ - ไม่มีโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait) แบบหน้าชัดหลังเบลอ - วัสดุที่ใช้ทำกรอบตัวเครื่องไม่ใช่โลหะ

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจากศูนย์ คุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองเพื่อความมั่นใจครับ *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

Leave a Comment